ชาวกาญจน์ยกนิ้วให้ สส.กาญจน์ เร่งกรมทางหลวง แก้ปัญหาด้านการจราจร เส้นทางมุ่งสู่แหล่งท่องเที่ยว
22 ก.ย. 2566, 10:43
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าวันนี้ผมมีเรื่องปรึกษาหารือกับท่านประธานรัฐสภาเกี่ยวกับปัญหาการจราจร และการเดินทางของผู้ใช้ถนน ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีของเรา ถือเป็น เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆของประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก จากสถิติพบว่า มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากถึง 10 ล้านคนต่อปี มากเป็นอันดับสามของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โดยถนนที่ใช้เป็นเส้นทางหลักในการเดินทาง เข้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ตั้งแต่ ถนนแสงชูโต ถนนสายบายพาส (เลี่ยงเมือง) ถนนสาย 324 กาญจนบุรี-สุพรรณบุรี ถนนสาย 323 กาญจนบุรี-ไทรโยค ถนนสาย 3199 กาญจนบุรี- ศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นถนนสายแหลักที่มุ่งหน้าสู่แหล่งท่องเที่ยว ทุกครั้งจะมีปัญหาการจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
เนื่องจาก ความหนาแน่นของผู้ใช้ถนนโดยเฉพาะการเดินทางมาจากเส้นทางถนนอู่ทอง-กาญจนบุรี วิ่งตรงไปสี่แยกวังสารภี หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยบริเวณสี่แยกวังสารภี การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการใช้เส้นทางสัญจรไปมาของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว
อีกจุดหนึ่ง ที่เป็นปัญหาเช่นเดียวกัน คือบริเวณสี่แยกแก่งเสี้ยน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวนรถที่วิ่งเข้ามาจากถนนบายพาสและถนนแสงชูโต เพื่อเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ เช่น น้ำตกไทรโยคน้อย ไทรโยคใหญ่ อ.ไทรโยค และ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อ.ศรีสวัสดิ์ การจราจรติดขัดมากเพราะเป็นถนน 2 เลน และในบางวันมีรถติด ยาวเกือบ 2-3 กิโลเมตร
ดังนั้นจึงเห็นควรที่จะมีการปรับปรุงถนนสายดังกล่าว เพื่อรองรับการขยายตัว และการเดินทางจากเส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ สาย บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่จะเปิดใช้งานในเร็วๆ นี้และเพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาในระยะสั้น และระยะยาว จึงขอให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เร่งแก้ไขเพื่อช่วยในการระบายรถในเส้นทางหลักข้างต้นเพื่อแก้ปัญหาในการระบายการจราจรออกจากตัวเมืองกาญจนบุรี เพื่อมุ่งหน้าไปสู่แหล่งท่องเที่ยวให้สะดวกมากยิ่งขึ้นต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า และจากการที่ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการอธิปรายเรื่องปัญหาการจารจร และเรื่องน้ำท่วมขังล่าสุดนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มีกำหนดการตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เป็นครั้งแรก ในวันที่ 24 ก.ย.2566 ดังนี้ เวลา 08.30 น.ทันที โดยออกเดินทางจากกระทรวงคมนาคม ไปยังอำเภอเมืองกาญจนบุรี เวลา 11.30 น.รับฟังข้อเท็จจริงถึงสภาพปัญหาการจราจรเพื่อเตรียมการสำหรับการตรวจราชการในพื้นที่ จากนั้นออกเดินทางไปบริเวณโครงการระบบระบายน้ำท่วมถนนพัฒนาการ บริเวณโครงการระบบระบายน้ำท่วม จุดนัดหมายบริเวณโครงการแก้มลิง และตรวจติดตามโครงการ รับฟังสภาพปัญหา และข้อเสนอแนะ
เวลา 14.30 น.เดินทางถึงบริเวณโครงการสะพานข้ามแยกแก่งเสี้ยน ต.แก่งเสี้ยน อ.เมืองกาญจนบุรีเพื่อตรวจติดตามโครงการ รับฟังสภาพปัญหาการจราจรและข้อเสนอแนะ จากนั้นออกเดินทางไปยังโครงการสะพานข้ามแยกวังสารภี ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อตรวจติดตามโครงการ รับฟังสภาพปัญหาการจราจร และข้อเสนอแนะ
ออกเดินทางไปยังระบบระบายน้ำท่วมบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพื่อตรวจติดตามโครงการ รับฟังสภาพปัญหาการจราจร และข้อเสนอแนะ จากนั้นเวลา 15.30 น.ออกเดินทางไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อประชุมรับฟังบรรยายสรุปจากการลงพื้นที่ตรวจราชการ ปัญหา/อุปสรรค/ข้อเสนอแนะและ มอบนโยบาย และแนวทางการดำเนินงานในการแก้ปัญหาการจราจร ก่อนที่จะเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
สำหรับคณะที่ร่วมเดินทางมาตรวจราชการในวันดังกล่าว ประกอบด้วย น.ส.ณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ), รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง), อธิบดีกรมการขนส่งทางบก, อธิบดีกรมการขนส่งทางราง, ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย, รองอธิบดีกรมทางหลวง และ รองอธิบดีกรมทางหลวงชนบท
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.กาญจนบุรีพรรคเพื่อไทย เขต ได้โพสต์เฟสบุ๊กแจ้งข่าวให้ประชาชนชาวกาญจนบุรี ได้ทราบล่วงหน้า โดยระบุว่า วันที่ 24 กันยายน นี้ ชุดใหญ่ไฟกระพริบ ลงพื้นที่แก้น้ำท่วมชุมชนเมือง ทุกหน่วยงานที่รับผิดชอบจากส่วนกลาง ลงไปแก้ปัญหา ให้กับประชาชน พร้อมทีมท่านรัฐมนตรีช่วยคมนาคม ซึ่งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปี พ.ศ.2563 กรมทางหลวงได้รับการจัดสรรงบประมาณปี 2563 เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกจุดตัดทางหลวงหมายเลข 324 กับทางหลวงหมายเลข 367 (แยกวังสารภี) จำนวน 450 ล้านบาท ตามแผนการเป็นการก่อสร้างจากทางด้านห้างสรรสินค้าโรบินสัน ข้ามแยกวังสารภี มาทางด้านเทศบาลตำบลปากแพรก ส่วนบริเวณสี่แยกไฟแดงจะเปลี่ยนเป็นวงเวียนขนาดใหญ่ โดยไม่มีไฟแดงอีกต่อไป
แต่โครงการและงบประมาณจำนวนดังกล่าวต้องพับไปเนื่องจากมีนักการเมืองท้องถิ่นและประชาชนจำนวนหนึ่ง ต้องการให้กรมทางหลวงสร้างอุโมงค์ลอดแยกวังสารภีแทน ทำให้โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแยกวังสารภีต้องชะงักไป จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีการก่อสร้างโครงการใดเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจร ที่ทุกวันนี่การจราจรตัดขัดเป็นอย่างมาก