"บิ๊กต่อ "ลงพื้นที่ล่ามือยิง เผยได้ตัวไม่ยาก ย้ำไม่ต้องกลัวอิทธิพลในพื้นที่
7 ก.ย. 2566, 16:55
หลังมีปากเสียงกำนันคนดังเมืองยอดแหลม ถูกมือปืนคู่ใจ กระหน่ำยิง 5 นัดกลางงานเลี้ยง โดยมีรองผู้กำกับฯทางหลวง เจ็บอีก 1 ราย รองผบ.ตร.เผยปมเป็นเรื่องศักดิ์ศรี ขอโยกย้ายตำรวจแต่สารวัตรคนตรงไม่รับปาก ซึ่งตอนนี้ออกหมายจับมือปืนและเตรียมออกหมายจับกำนันด้วย คาดได้ตัวไม่ยากวอนสังคมอย่ากดดันให้มีวิสามัญเพราะมีกฎหมายรองรับ ย้ำไม่มีอิทธิพลไหนมาช่วยคนร้ายได้
วันนี้ 7 กันยายน 66 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าในคดีสะเทือนวงการสีกากีช่วงปรับโยกบย้าย หลังจากที่ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ถูกคนร้ายยิงใส่ 5 นัด อาการบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนครปฐมในเวลาต่อมา ขณะที่ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล.ถูกลูกหลงคมกระสุนเข้าที่แขนซ้าย 1 นัดได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 6 กันยายน ที่ผ่านมา โดยเป็นคดีที่คนร้ายก่อเหตุอุกอาจกลางเมืองในงานเลี้ยงของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก กำนันตำบลตาก้อง อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ส่วนมือยิงคือ นายธนัญชัย หมั่นมาก อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ อยู่บ้านเลขที่ 89/9 ม.7 ต.หนองกบ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
โดยช่วงเช้า พล.ต.ต.จักรกฤษ เครือสุนทรวานิช · ผบก.ภ.จว.นครปฐม ได้ลงมาพื้นที่เพื่อติดตามคดีด้วยตัวเอง โดยสั่งการให้ พ.ต.อ.ภูภณ ทัพเจริญ ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และทีมคลี่คลายคดีเชิญบุคคลใกล้ชิดและนางสาววนิดา (นามสมมติ) ภรรยาของนายธนัญชัย มือยิงมาทำการสอบปากคำเพื่อหาเบาะแสการหลบหนี และแหล่งกบดาน ซึ่งต้องมีการเตรียมการเข้มงวดเนื่องจากมีอาวุธปืนติดตัวรวมถึงใช้ปืนเป็น และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของชุดไล่ล่าให้รัดกุม
ขณะที่ห้องรับศพ โรงพยาบาลนครปฐม พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล (บิ๊กต่อ) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เดินทางเข้าพบครอบครัวของ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.2 บก.ทล. ซึ่งมีบิดา มารดา พี่สาว ภรรยาและบุตรสาววัย 6 ขวบและญาติรวมถึงเพื่อนข้าราชการตำรวจและผู้ใต้บังคับบัญชามารอรับศพอยู่ด้วยบรรยากาศโศกเศร้า ซึ่งเมื่อมารดาของพ.ต.ต.ศิวกร ได้พบกับบิ๊กต่อได้ตรงเข้าสวมก่อนและร้องไห้ก่อนจะบอกกับรองผบ.ตร.ว่า ลูกชายเพิ่งจะได้รับกระบี่ไม่นาน ซึ่งได้มีการให้กำลังใจว่าจะดำเนินคดีให้เต็มที่และไม่ต้องเกรงกลัวเรื่องอิทธิพล และเข้าพบภรรยาและบุตรสาววัย 6 ขวบโดยได้จับไหล่และบอกว่า คุณพ่อไปทำงานนะคะ ถ้าใครถามให้บอกว่า คุณพ่อไปทำงานนะ ก่อนที่ นพ.สุรชัย โชคครรชิตไชย ผอ.รพ.นครปฐม จะเข้าให้กำลังใจและบอกว่าทีมแพทย์พยาบาลได้ทำหน้าที่สุดกำลังความสามารถและได้ชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตให้ทราบ
ขณะที่ทางบิดาและมารดา บอกว่า ตนเองพักอยู่ที่กรุงเทพและไม่ทราบมาก่อนว่าจะเกิดเหตุดังกล่าว ขณะที่ไม่เคยทราบเรื่องการทำงานของบุตรชายว่าจะมีปัญหาอะไรและพฤติกรรมของสารวัตรศิวกร เป็นคนดีตามที่สื่อได้ลงเอาไว้ตามข่าว ส่วนพี่สาวบอกว่าเรื่องนี้เกิดเร็วเกินไปและน้องชายไม่เคยบอกว่าเขามีปัญหาอะไรกับงานที่ทำงาน และน้องชายเป็นคนตรงไปตรงมาเขาไม่ชอบเรื่องการวิ่งเต้นอยู่แล้ว อยากให้กรณีน้องชายเป็นบรรทัดฐานในการทำงานต่อไป และเราคิดว่าทุกชิวิตจะต้องจบลงแต่ไม่คิดว่าจะเร็วแบบนี้
จากนั้น ทางบิดาของ พ.ต.ต.ศิวกร ได้จุดธูปวิญญาณและเชิญร่างของบุตรชายขึ้นรถตู้เพื่อนำไปส่งยังวัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน ซึ่งทุกคนในครอบครัว ต่างร้องไห้ปานน้ำตาเป็นสายเลือดทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้าและเคลื่อนตัวออกโดยมีขบวนรถตำรวจทางหลวงนำทาง
พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล (บิ๊กต่อ) รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ถือว่าอุกอาจมากเพราะเป็นการยิงที่โหดเหี้ยม น้องเสียชีวิตเพราะเสียเลือดมาก จากการโดนยิง 5 นัดเข้าที่ลำตัวและกระสุนที่ทำให้เสียชีวิต คือกระสุนนัดที่เข้าข้างลำตัวเข้าไปที่ตับทำให้เสียเลือดมาก ซึ่งคดีนี้ขอให้ชัดเจนว่าจะไม่ต้องกลัวคำว่ามีอิทธิพล มากดดัน ตอนนี้เราได้กดดันติดตามตัวคนร้ายอย่างใกล้ชิดแต่ว่าจะได้ตัวหรืออยู่ที่ไหนขอไม่บอก แต่แน่ชัดว่าประเด็นคือการขัดแย้งกันในเรื่องการขอการวิ่งเต้น ซึ่งผู้ตายเป็นคนตรงทำให้เกิดความไม่พอใจ โดยแนวทางของการสืบสวน การขัดแข้งจะมีไม่มาก โดยหลักจะมีเป็นเรื่อง ทรัพย์ เซ็กซ์ ศักดิ์ศรี สติแตก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของส่วนตัวเป็นศักดิ์ศรีชัดเจน ซึ่งภายในงานสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไปด้วยในงานก็ไม่มีใครพกปืนไปเลยจึงไม่ได้มีการยิงต่อสู้กัน ซึ่งคนร้ายก็ได้หลบหนีไป
รองผู้บัญชาการตำรวจ เผยต่อว่า สำหรับการไล่ล่าก็ได้แจ้งกับทาง ผู้บัญชาการสอบสวนกลางแล้วว่า หากการสอบสวนไปได้ก็ไม่จำเป็นต้องใช่ชุดคอมมานโดลงมา ซึ่งการติดตามตัวและสืบสวนก็จะอยู่ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 7 และขอฝากไปยังสื่อมวลชนและสื่อโซเชียล ขอให้อย่ากดดันเรื่องการวิสามัญเพราะมี กฎหมายควบคุมอยู่ซึ่งการทำงานจะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมายด้วยซึ่งการวิสามัญหากเกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติก็ต้องไปขึ้นให้การบนชั้นศาลด้วย
ขณะที่ตอนนี้ได้มีการอนุมัติหมายจับ ที่ จ.462/2566 ศาลจังหวัดนครปฐม ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและมีเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนและโดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้าน หรือที่ชุมชน และคาดว่าจะมีการออกหมายจับ กำนันนก ตามมาอีก
โดยเป็นที่ทราบว่า นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือกำนันนก เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ในเขตเมืองนครปฐม ซึ่งเป็นเป็นบุตรชายของอดีตกำนันในพื้นที่ มีฐานะดีและมีคนรู้จักในแวดวงธุรกิจและการเมืองในจังหวัดนครปฐม ซึ่งภายในงานได้มีการจัดเลี้ยงเป็นประจำในพื้นที่เกิดเหตุ