ยายใจสลาย 2 นร.หญิงขี่จยย.ไปโรงเรียน หลบรถย้อนศรล้ม 18 ล้อทับดับ
25 ส.ค. 2566, 12:20
วันนี้ (25 ส.ค.66) เวลา 07.30 น.ตร.สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งมีเหตุรถพ่วง 18 ล้อเหยียบร่างนักเรียนขณะขับรถจยย.จะไปโรงเรียนตอนเช้า ที่ถนนสายอุดรธานี-หนองบัวลำภู เยื้องๆ กับสถานพินิจฯ จ.อุดธานี หลังรับแจ้งกู้ภัยสว่างเมธาธรรมและด้วยแพทย์เวร ตร.เดินทางไปที่เกิดเหตุทันที ไปถึงเป็นภาพที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง ร่างของนักเรียนหญิง 2 คนถูกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อเหยียบร่างจนเละ เศษเนื้อสมองเกลื่อนพื้นถนน ใกล้ๆ มีกระเป๋านักเรียนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และรถจยย.สกุ๊ปปี้ สีดำคาดเหลือง หมายเลขทะเบียน 2 กฒ 3270 อุดรธานี ซึ่งเป็นของเด็กทั้งสองคนล้มอยู่ข้างๆ ทราบชื่อเด็กนักเรียนเคราะห์ร้ายทั้งสองรายคือ ด.ญ. ศุภิสรา รัตนะโค้น อายุ 14 ปีเรียนอยู่ชั้นม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ และด.ญ.เกศสุดา เนตรนีย์ อายุ 13 ปี ม.2 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ ทั้งสองคนอยู่บ้านนิคม 2 ต.โคกสะอาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
ต่อมาคุณยายสุบิน รักษาบุญ อายุ 64 ปีผู้เป็นยาย เดินทางมาหลังทราบข่าวเป็นหลานสาวตัวเองถูกรถชนเสียชีวิต 2 ราย คุณยายร้องไห้แทบใจจะขาด บอกว่า หลานฉันๆ ทำไมไม่ให้ยายตายแทน ยายอยากตายแทนหลานได้ ไม่น่าไปก่อนยายเลย เจ้าหน้าที่ฯ ได้ขอร้องไม่ให้คุณยายเข้าไปใกล้ที่เกิดเหตุ แต่คุณยายบอกว่า ขอให้ยายคลานไปดูหน้าหลานครั้งสุดท้ายหน่อย กู้ภัยและญาติๆ ต้องคอยให้ยาดมคุณยายตลอดเวลา ห่างจากศพน้องนักเรียนไปประมาณ 500 เมตรพบรถพ่วง 18 ล้อยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขรถ 81-5523หนองบัวลำภู และตัวลูก ทะเบียน 81-5524 หนองบัวลำภู ซึ่งบรรทุกหินมาเต็มคันรถ โดยคนขับยืนรอเจ้าหน้าที่ฯ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
นายอนันต์ ประธรรมมะเต อายุ 39 ปี คนขับรถบรรทุกพ่วง บอกว่า ตนเองขับรถพ่วงบรรทุกหินจากโรงโม่ที่จ.หนองบัวลำภูจะไปส่งที่อ.ไชยวาน วิ่งมาตามปกติ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเลย เพราะไม่ได้ยินเสียงชนหรือทับอะไรเลยเพราะรถที่บรรทุกหินมาหนัก พอเกิดเหตุก็ไม่ได้ขับหนี มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบก็พร้อม
นายยุทธนา รักษาบุญ อายุ 19 ปี พี่ชายของเด็กหญิงทั้งสอง บอกว่า เมื่อคืนมีลางสังหรณ์บอกเหตุ ไม่รู้เป็นอะไร ซึ่งเป็นวันพระด้วย สุนัขในหมู่บ้านเป็นฝูงหอนวิ่งไปวัดแล้วหอนวิ่งกลับมาบ้านที่น้องทั้งสองคนนอนอยู่ ตนเองไม่คิดว่าจะเป็นลางไม่ดี มาเช้าวันนี้รู้ข่าวน้องถูกรถชนเสียชีวิตเสียแล้ว
นางสุบิน ยายของเด็กทั้งสองคนบอกว่า สองคนเป็นญาติกันลูกพี่ลูกน้อง เมื่อคืนเขามานอนที่บ้านด้วยกัน จึงพาขับรถมอเตอร์ไซด์เพื่อไปโรงเรียน ซึ่งจริงๆ แล้วหลานอีกคนจะไปกับรถตู้ส่วนหลานอีกคนไม่ได้ไปกับรถตู้ วันนี้เขาเลยพากันขี่มอเตอร์ไซด์ไปโรงเรียนด้วยกันพากันไม่ใส่หมวกกันน็อค ยายก็ห่วงบอกว่า ให้ใส่หมวกกันน็อคด้วยนะลูก และขับรถให้ระวังเพราะเมื่อเช้ามีฝนตกถนนลื่น เห็นแต่ในข่าวทีวีรถชนนักเรียนตายแต่ไม่คิดว่าเช้าวันนี้จะมีข่าวร้ายกับตนเอง ใจยายให้ตายแทนหลานก็ได้เพราะยายแก่แล้ว หลานทั้งสองคนไม่น่าจะไปในวัยเรียนเลย ยายสุบินกล่าวด้วยความเศร้าใจ
ขณะที่ตร.ตรวจสอบที่เกิดเหตุสอบถามจากผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า น้องนักเรียนทั้งสองคนขับรถมอเตอร์ไซด์จากบ้านกำลังไปโรงเรียนในตัวเมือง พอมาถึงที่เกิดเหตุมีคนจูงจักรยานย้อนศรมา น้องคนขับอาจจะมองไม่เห็นทำให้รถเฉี่ยวแล้วล้มลงกระเด็นไปเลนซ้ายของถนน ขณะเดียวกันมีรถบรรทุก18 ล้อวิ่งตามหลังมา เหยียบร่างของน้องทั้งสองคนจนเสียชีวิตดังกล่าวทันที