"หนุ่มเมืองสุพรรณฯ" ดับปริศนา ในสถานีตำรวจ ญาติเผยป่วยโรคลมชัก
4 ก.ค. 2566, 17:37
วันนี้ 04 ก.ค. 2566 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณศาลาภายในสถานีตำรวจเมืองกาญจนบุรี พบมีผู้เสียชีวิตเป็นชาย ทราบชื่อ นายดาวเรือ ปาละพันธุ์ อายุ 33 ปี บ้านเกิดอยู่ตำบลพลับพลาไชย อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี นอนเสียชีวิตบริเวณศาลาภายในโรงพักเมืองกาญจนบุรี พันตำรวจโท ราม จันทร์สุทนพจน์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมแพทย์จากโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา ร่วมทำการชันสูตร์พลิกศพ ในเบื้องต้นผู้เสียชีวิต ได้เสียชีวิตมาประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง พบเพียงบาดแผลที่ใบหน้าเนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้ล้มบริเวณสถานขนส่งกาญจนบุรี มีเจ้าหน้าที่จะนำส่งโรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่ยอมไป จึงได้นำมาพักไว้บริเวณศาลาภายในโรงพักจุดที่เสียชีวิต
จากการตรวจสอบกระเป๋าแป้ของผู้เสียชีวิต พบสิ่งของใช้ส่วนตัว รวมถึงยารักษาโรคลมชัก ของผู้เสียชีวิตพกติดตัวไว้ เบื้องต้นทางแพทย์คาดว่าน่าจะเกิดจากการชักแล้วไม่มีใครเห็นจนขาดอาการทำให้เสียชีวิต อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจพิสูจน์จากสถาบันศูนย์ราชบุรีอีกครั้ง ระหว่างนี้เจ้าหน้าที่ได้ติดต่อกับทางญาติของผู้เสียชีวิตได้แล้ว โดยแจ้งว่าจะเดินทางมาพบในเช้าของวันพรุ่งนี้ ส่วนศพทางแพทย์ได้มอบให้ทางมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ นำกลับไปเพื่อรอญาติมาแล้วนำไปยังสถาบันศูนย์ราชบุรีต่อไป
ส่วน นายดาวเรือ ปาละพันธุ์ มีประวัติเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลเจ้าพยายมราช จังหวัดสุพรรณบุรี ป่ายด้วยโรคลมชัก ต้องรับประทานยาตลอด โดยในกระเป๋าแป้ มียาของผู้เสียชีวิตดังกล่าวอยู่อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ทำการตรวจหาเชื้อโควิด 19 แต่ก็ไม่พบเชื้อเช่นกัน
สำหรับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์ ที่ได้ไปช่วยเหลือนายดาวเรือง ปาละพันธุ์ ในช่วงเย็นของเมื่อวานนี้ เล่าว่าได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือขอให้นำผู้บาดเจ็บรายนี้ส่งโรงพยาบาล โดยเบื้องต้นได้ช่วยทำแผลให้ในเบื้องต้น เมื่อทำแผลเสร็จก็จะนำส่งโรงพยาบาลแต่เจ้าตัวไม่ยอมไป จึงต้องนำมาพักไว้ในศาลา สภ.เมืองกาญจนบุรี และมาทราบอีกทีว่าชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว สร้างความประหลาดใจมาก เพราะบาดแผลเล็กน้อยไม่น่าทำให้ถึงชีวิต แต่ในช่วงที่เข้าไปช่วยเหลือ พูดกับเขาไม่รู้เรื่องเพราะอยู่ในอาการมึนเมามาก
ส่วนสาเหตุที่นายดาวเรือง ปาละพันธุ์ เดินทางจากบ้านเกิดพร้อมกระเป๋าแป้ใบเดียว มายังจังหวัดกาญจนบุรี เพราะสาเหตุใด ต้องรอให้ทางพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนญาติก่อนจึงจะทราบรายละเอียด ก่อนนำศพให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป./