หึงโหด ! "ครูพี่เลี้ยงสาว" ถูกสามีแทงในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เสียชีวิต
14 มิ.ย. 2566, 15:45
วันที่ 14 มิถุนายน2566 เมื่อเวลา 18.30 น.ของวันที่ 13 มิถุนายนของวานนี้ พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สอบสวน สภ.เมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พร้อมอาสาสมาคมอาสากู้ชีพ-กู้ภัยจอมพระ สุรินทร์ (หน่วยกู้ภัยจอมพระกตัญญู) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ อบต.ชุมแสง มีเหตุทำร้ายร่างกายมีผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ สุรินทร์ จึงได้จัดกำลังออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับกู้ชีพตำบลชุมแสง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลีง และแพทย์เวรชันสูตร รพ.จอมพระ
ที่เกิดเหตุเป็นศูนย์พัฒนาเด็กเล็กและภายในศูนย์ฯพบผู้เสียชีวิต 1 รายหญิง ทราบชื่อต่อมาชื่อนางสำรวมสุข ตลับทอง อายุ ราว 45 ปี บ้านเลขที่ 85 ม.3 บ้านอุดมต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์นอนเสียชีวิต อยู่ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านอุดม ต.ชุมแสง มีบาดแผลถูกของมีคมบาดที่ศรีษะ มีความลึก ตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบมีดพร้ายาวเกือบเมตรตกอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์เวรชันสูตร รพ.จอมพระทำการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต พร้อมกับส่งศพไปชันสูตรเพิ่มเติมต่อ ที่นิติเวช รพ.สุรินทร์
นาย สง ดาทอง (พี่เขยครูรวมผู้ตาย) เล่าว่า นางสำรวมสุข ตลับทอง หรือครูรวม และนายสมศักดิ์ แสนดี หรือนายศักดิ์ อายุ 45 ปี (ผู้ก่อเหตุ) พึ่งได้แต่งงานกันมา 2-3 เดือน นายศักดิ์ นั้นเป็นคนโมโหร้าย และขี้หึง ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันก็มักจะมีเรื่องทะเลาะกับนางรวมอยู่เสมอ และทำร้ายร่างกาย ในวันเกิดเหตุนายศักดิ์และนางรวมก็ทะเลาะและทำร้ายร่างกายกันมาจากบ้านแล้ว นายศักดิ์ตามมาที่โรงเรียนจนโรงเรียนเลิก และมีคนแจ้งเหตุตอน 18.30 น. ว่า นางรวมได้เสียชีวิตแล้ว
นางประยงค์ พี่สาวผู้ตาย กล่าวว่า ตนไม่ให้อภัยผู้ก่อเหตุเด็ดขาด อยากให้ได้รับกรรม ตายตกไปตามกัน เพราะครูรวมเป็นคนดีรักเด็ก และเด็กๆก็รักครูรวมทุกคน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.แสงหิรัณย์ แก้วดี สว.สอบสวน ได้กล่าวว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวนายศักดิ์ไว้แล้ว เนื่องจากวานนี้เมื่อนายศักดิ์ก่อเหตุเสร็จ ก็ได้หนีกลับบ้านและผููกคอหวังปลิดชีพตนเอง ที่บ้าน ที่ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ แต่ทางญาติได้ไปพบก่อนจึงได้ช่วยไว้ทัน และนำส่ง โรงพยาบาลท่าตูม ขณะคนนี้ผู้ต้องหายังไม่รู้สึกตัวเบื้องต้นได้ตั้งข้อหาไว้ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาส่วนสาเหตุและรายละเอียด ผู้ก่อเหตุอยู่ระหว่างร้อยเวรสืบสวนสอบสวนหาผู้ก่อเหตุต่อไป