"นายกฯ" ลั่น! ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
14 มิ.ย. 2566, 11:03
วันที่ 14 มิ.ย. เวลา 09.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัวถึงการสร้างความเป็นธรรมให้กับประชาชนว่า การสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทย ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ผมยึดมั่นว่าจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ซึ่งในวันนี้ผมมีความยินดีที่จะแจ้งว่า เรามีความคืบหน้าอย่างมาก บรรลุการแก้ปัญหาการขายฝากที่ไม่ชอบธรรม เพื่อคุ้มครองพี่น้องประชาชนและเกษตรกร ไม่ให้ถูกเอารัดเอาเปรียบ ใช้ช่องว่างทางกฎหมาย พรากที่ดิน-ที่ทำกิน-ที่อยู่อาศัยไป เพราะความไม่เข้าใจกฎหมาย หรือโดนกลโกง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
1.ปัญหาการสูญเสียกรรมสิทธิ์ในที่ดิน-ที่อยู่อาศัยในอดีต มักเกิดจากประชาชน/เกษตรกรที่เดือดร้อนเรื่องเงิน มักเลือกทำ/ถูกโน้มน้าวให้ทำสัญญาขายฝาก เพื่อแลกกับเงินจำนวนมากกว่าสัญญาจำนอง แต่เสี่ยงที่จะสูญเสียที่ดินไปง่ายกว่า เพราะต้องส่งมอบทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์ให้ผู้รับซื้อฝากทันที โดยไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดิน-ที่อยู่นั้นได้ จนกว่าจะไถ่คืนจนครบจำนวน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สาเหตุต่อมาคือผู้รับซื้อฝากที่ไม่ซื่อสัตย์ มักใช้กลโกง ในการบ่ายเบี่ยง ไม่รับการจ่ายหนี้ ไม่รับการไถ่ถอน จนประชาชน/เกษตรกร “ผู้ขายฝาก” กลายเป็นผู้ผิดสัญญา แล้วถูกยึดทรัพย์ขายฝาก หรือไม่ก็ไม่ยอมคืนกรรมสิทธิ์/โฉนดนั้น อย่างไร้เหตุผล แม้จะชดใช้หนี้จนครบแล้วก็ตาม และ กฎหมายขายฝากฉบับเดิมไม่สามารถคุ้มครองทรัพย์สินของประชาชน/เกษตรกรที่ไม่รู้เท่าทัน ไม่เข้าใจกฎหมายขายฝาก-จำนอง จึงเป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมของเราตลอดมา
สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนของรัฐบาล คือ การปรับปรุงกฎหมาย-ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ที่มุ่งเน้นไปยังกลุ่มเป้าหมาย ที่มักเป็นเหยื่อจากการขายฝากที่ฉ้อฉล ได้แก่ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประชาชนในการทำสัญญาขายฝาก ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือที่อยู่อาศัย พ.ศ.2562 และ “ฉบับที่ 2” พ.ศ.2566 ระเบียบกรมที่ดิน ว่าด้วยการวางทรัพย์อันเป็นสินไถ่ ณ สำนักงานที่ดิน ตามคำแนะนำของคณะกรรมการพัฒนากฎหมาย ตลอดจนสร้างกลไกในการทำงานของสำนักงานที่ดิน เช่น ปรับปรุงหลักเกณฑ์-วิธีการที่เกี่ยวเนื่องกับการขายฝาก, เพิ่มช่องทางการให้บริการ, จัดทำคู่มือและอบรมเจ้าหน้าที่เพิ่มเติม, ทำฐานข้อมูลสัญญาขายฝาก-ผู้ขายฝาก-ผู้รับซื้อฝาก เป็นต้น
ผลทางการปฏิบัติที่ปิดจุดอ่อนกฎหมายขายฝากในอดีต โดยยึดหลักการสำคัญ คือ เมื่อผู้ขายฝากจ่ายหนี้ครบ สามารถเอาที่ดินคืนได้ทันที แม้ผู้ซื้อฝากจะไม่ยอมคืนโฉนดก็ตาม ซึ่งมีวิธีการปฏิบัติดังนี้ 1.เมื่อผู้ขายฝากได้ชำระหนี้ หรือวางทรัพย์ที่สำนักงานที่ดินครบแล้ว 2.เจ้าพนักงานจะมีหนังสือแจ้งผู้ซื้อฝาก ให้มารับเงิน และนำเอกสารสิทธิ์(โฉนด) มาจดทะเบียนไถ่จากการขายฝาก 3.ถ้าผู้ซื้อฝากไม่มาติดต่อ หรือมา แต่ไม่นำเอกสารสิทธิ์มาด้วย ภายใน 30 วัน (นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง) เจ้าพนักงานสามารถออกใบแทนเอกสารสิทธิ์ให้แก่ผู้ขายฝากได้ทันที
“ผมขอชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในความมุ่งมั่นสร้างสังคมที่เป็นธรรม บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชนทุกคน ด้วยการแปลงนโยบายของผม และของรัฐบาล ให้บรรลุผลสำเร็จในทางปฏิบัติได้ในที่สุด ซึ่งผมถือว่า ทุกข์ของประชาชน ก็คือทุกข์ของผม ดังนั้นผมและข้าราชการทุกคน จากทุกหน่วยงาน จึงไม่อาจละเลย เพิกเฉย ในการทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อประเทศชาติและประชาชนครับ”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว