เพจเฟซบุ๊ก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์เรื่องราวของช้างจากจีน และช้างจากภูหลวง ระบุว่า  "#เรื่องเล่าจากภูหลวง การเดินทางกว่า 100 กิโลเมตร อาจจะยังไม่เท่ากับฝูงช้างป่าประเทศจีนที่เดินทางถึง 500 กิโลเมตร

แต่หนุ่ม ๆ ภูหลวงก็ไม่น้อยหน้า เดินทางมากับครอบครัวใหญ่ เข้าเขตท้องที่อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูค้อภูกระแตและอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ตอนนี้ฝูงกลับหมดแล้ว เริ่มทยอยกลับภูหลวงตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2566 เหลือ 4 หนุ่มน้อยที่ยังอยู่
4 หนุ่มแบ่งเป็น ชุด A,B ชุดละ 2 ตัว

 

ชุด A เป็นช้างสีดอ(เพศผู้ไม่มีงา) ชาวบ้านชอบเรียกว่าช้างแม่ลูก ตอนนี้อยู่ผานกเค้า อำเภอภูกระดึง
ชุด B คือ 2 หนุ่มนี้ พี่สีดอและน้องงาจิ๋ว เดินข้าม 3 จังหวัดที่เป็นเขตรอยต่อ จังหวัดเลย จังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดขอนแก่น

2 หนุ่มเดินเพลิดเพลินมาถึงลำน้ำพองและอยู่ที่นี่ 2 วัน ชาวบ้านตื่นเต้นเพราะไม่เคยพบเจอช้างมาก่อน เราทีมสถานีวิจัยสัตว์ป่าภูหลวงและอุทยานแห่งชาติภูกระดึง รวมถึงเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลนากอกและเทศบาลโนนสะอาด ผู้ใหญ่บ้านป่าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสมสนุกติดตาม 24 ชั่วโมงร่วมกัน
เส้นทางใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมาแต่ชาวบ้านคนที่พบเจอตอนมาที่หมู่บ้านบ้านป่านวันแรก บอกว่า “ช้างข้ามแก่งมา”

เย็นวันนี้เราจึงประคองให้เค้ามาเส้นทางเดิมในใจทีมเรายังไม่เชื่อเลยว่าจะลงลำน้ำไปข้่ามแก่ง (ลำน้ำพอง) แต่เราก็ได้เห็นภาพนี้ตรงหน้า ช้างป่าสัตว์ป่าที่ฉลาดและแม่นยำในทิศทาง เส้นทางเดินของตนเอง เดินมุ่งหน้าอย่างมุ่งมั่นลงตลิ่ง ลัดเลาะริมลำน้ำพุ่งไปถึงแก่งจุดข้าม และแล้วก็สำเร็จหนุ่มน้อยข้ามลำน้ำได้และเดินขยับกลับทิศทางเดิมเคลื่อนจากจุดนั้นเกือบ 4 กิโลเมตร พี่ ๆ โล่งอกไปได้หน่อย
คืนนี้ mission complete ภารกิจดูแลพาน้องกลับป่าภูหลวง ค่อย ๆ ขยับนะ ขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้าใจ เรียนรู้และเป็นมิตรกับช้างป่า"
ปล.ภาพไม่นิ่งเพราะนักวิจัยตื่นเต้นมากทั้งบิน ทั้งลุ้นคน ลุ้นน้ำเชี่ยว ลุ้นเส้นทาง พอนำโดรนลงได้นิ้วล็อคไปเลย