มรดกเลือด! น้องชายปืนโหดยิงพี่สาวดับ สารภาพอารมณ์ชั่ววูบ
22 พ.ค. 2566, 17:44

เมื่อเวลา 12.02 น.วันที่ 22 พ.ค.66 พ.ต.ท.เมธี พาชื่นใจ สว (สอบสวน) สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันตายในสวนทุเรียน หมู่บ้านหนับเภา หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น แล้วพร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.,พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.,พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.(สอบสวน),พ.ต.ท.ปิยะวัฒน์ สุพรรณพงศ์ รอง ผกก.สส.,กำลังตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลท่าศาลา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชาร่วมใจ อ.ท่าศาลา เดินทางไปที่เกิดเหตุเพื่อร่วมกับสอบสวน ชันสูตรพลิกศพ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุในสวนทุเรียน ริมถนนสายหนับเภา - ท่าขึ้น บริเวณพื้นดินหน้าบ้านไม่มีเลขที่พบศพผู้ตายชื่อ น.ส.จันทราวรรณ หรือ เจี๊ยบ บุณเศียร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 214/1 หมู่ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพนอนตะแคงซ้ายในชุดชาวสวนเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงวอร์มสีดำ ขายาว รองเท้าผ้าใบสีขาว สวมหมวกผ้า ศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นขนาด 11 มม.เข้าบริเวณหน้าอกซ้ายทะลุแขน 1 นัด และชายโครงซ้ายทะลุหลัง 1 นัด ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืน 11 มม.ตกอยู่ 2 ปลอก และกระสุนขนาด 11 มม.จำนวน 1 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุทราบว่านายสุชาติ บุณเศียร อายุ 67 ปี พ่อผู้เสียชีวิตได้แย่งจากมือของคนก่อเหตุมาได้ จึงเก็บไว้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ
ส่วนผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใคร ไหน แต่เป็นน้องชายผู้ตายนั่นเอง สอบสวนทราบชื่อนายภูวกร หรือ จอม บุณเศียร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หลังก่อเหตุยิงพี่สาวตาย ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อBMW สีขาว ทะเบียน ขข – 8345 นครศรีธรรมราช หลบหนีมุ่งหน้าเข้าตัว อ.ท่าศาลา และ อ.เมืองนครศรีธรรมราช ล่าสุดทราบว่า ได้ติดต่อจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ท่าศาลาแล้ว อยู่ระหว่างการรอมอบตัวอยู่
สอบสวนเบื้องทราบว่าก่อนเกิดเหตุ น.ส.จันทราวรรณ ผู้ตาย พร้อมด้วยนายภูวกร น้องชาย และนายสุชาติ ผู้เป็นพ่อ นัดหมายกันมาที่บริเวณบ้านสวนทุเรียนที่เกิดเหตุ เพื่อพูดคุยเรื่องแบ่งมรดกที่ดินสวนทุเรียนแปลงหนึ่ง เนื้อที่ 10ไร่ ซึ่งเป็นของแม่ที่เสียชีวิต แต่ว่าเจรจาพูดคุยตกลงกันไม่ได้ จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง นายภูวกร หรือ จอม น้องชาย โมโหชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่พี่สาว 2 นัดซ้อนร่าง น.ส.จันทราวรรณ หรือ เจี๊ยบ ล้มฟุบจมกองเลือดเสียชีวิตคาที่ ระหว่างนั้นนายสุชาติ ผู้เป็นพ่อ เข้าแย่งอาวุธปืนจากมือนายภูวรกร หรือ จอม มาได้ ก่อนที่นายภูวกร จะวิ่งไปขับรถยนต์เก๋ง BMW หลบหนีไป ซึ่งทางตำรวจได้วิทยุสกัดจับเส้นทางต่างๆแต่ยังไร้วี่แวว และอยู่ระหว่างการติดต่อเข้ามอบตัว
ต่อมาเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายภูวกร หรือ จอม บุณเศียร อายุ 34 ปี ผู้ต้องหา ใช้อาวุธปืนยิง น.ส.จันทราวรรณ หรือ เจี๊ยบ บุณเศียร อายุ 45 ปี พี่สาวแท้ๆของตัวเองเสียชีวิต เดินทางเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.ท่าศาลา และ พ.ต.ท.เกษมสิทธิ์ จำปาทอง รอง ผกก.สอบสวน และ พ.ต.ท.นรากร เอียดช่วย รอง ผกก.ป.สภ.ท่าศาลา โดยยอมรับสารภาพ ทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ โดยทะเลาะกันเรื่องปัญหาแย่งมรดกที่ดินกับพี่สาวแต่ตกลงกันไม่ได้จนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ตนโมโหจึงชักอาวุธปืนยิงพี่สาว 2 นัดซ้อนจนพี่สาว ตายคาที่ จนมีพ่อมาห้ามและแย่งปืนกลับไป หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ไปตั้งสติที่บ้านพักใน อ.เมือง ก่อนจะเข้ามอบตัวดังกล่าว ขณะที่ น.ส.รัตตินันท์ หลีพรกิตติกุล อายุ 33 ปี ภรรยาของนายภูวกร ซึ่งพานายภูวกร สามี เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ท่าศาลา ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าวโดยบอกว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ
ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกัน หลังจากนายภูวกร หรือ จอม บุณเศียร อายุ 34 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และให้การรับสารภาพ สาเหตุมาจากแย่งมรดกที่ดินสวนยางของผู้เป็นแม่ จึงเกิดบันดาลโทสะชักปืนยิง น.ส.จันทราวรรณ หรือ เจี๊ยบ พี่สาวตายคาที่ โดยทางตำรวจ สภ.ท่าศาลา ควบคุมตัวนายภูวกร หรือ จอม ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุภายในสวนทุเรียน หมู่บ้านหนับเภา หมู่ 8 ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ท่ามกลางญาติๆ และชาวบ้านไปมุงดูการทำแผนจำนวนมาก ภายหลังทำแผนเสร็จ ทางตำรวจนำตัวนายภูวกร กลับ สภ.ท่าศาลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.