เริ่มแล้ว ! ประเพณีไหลเรือไฟนครพนม กาชาดแจกรถยนต์คันละ 50 บาท ถูกที่สุดในโลก (มีคลิป)
4 ต.ค. 2562, 12:48
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณลานซุ้มทำเรือไฟอำเภอเมืองนครพนม ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเมืองนครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางวิไลวรรณ ไกรโสดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอก ธีทัต อิ่มทั่ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม(รอง ผบก.ภ.จว.ฯ) นายวิทยา สิทธิราช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม(รองนายก อบจ.ฯ) และนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 6-14 ตุลาคม รวม 9 วัน 9 คืน เพื่อเป็นการสืบสาน อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีอันดีงาม ในการสร้างประทีปเป็นพุทธบูชาในช่วงวันออกพรรษา และเป็นการส่งเสริม เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ภายในจังหวัด ให้เป็นที่รู้จักกับประชาชนทั่วไปมากยิ่งขึ้น
ผวจ.นครพนม เปิดเผยว่า งานไหลเรือไฟและงานกาชาดในปีนี้ จังหวัดนครพนมได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดสร้างเรือไฟขนาดใหญ่ขึ้น จำนวน 13 ลำ มีมูลค่าการก่อสร้างลำละประมาณ 1 ล้านบาท โดยแต่ละลำจะมีการนำไม้ไผ่มากกว่า 5,000 ลำ มาทำเป็นโครงสร้างของเรือไฟ ซึ่งขนาดความยาวแบ่งออกเป็นขนาด 40 เมตรขึ้นไป ส่วนความสูงของเรือไฟขึ้นอยู่กับลวดลายที่ออกแบบ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 20 - 40 เมตร มีการประดับตกแต่งด้วยตะเกียงไฟที่เกิดจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ประมาณ 30,000-50,000 ดวง ต่อหนึ่งลำเรือ โดยตะเกียงไฟจะนำไปแขวนบนเส้นลวดในตำแหน่งต่าง ๆ ที่มีการออกแบบให้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และศิลปวัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น เอกลักษณ์ท้องถิ่น หรือความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ขัดกับวัฒนธรรมประเพณีและศีลธรรม ที่เมื่อจุดไฟที่ตะเกียงแล้ว จะเกิดแสงสว่างไสวเป็นลวดลายที่สวยงาม นอกจากนี้เรือไฟบางลำจะมีการออกแบบให้มีความพิเศษ เช่น มีบางส่วนเคลื่อนไหวได้ หรือสามารถพ่นไฟได้ เป็นต้น
โดยงานเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม จะมีการไหลเรือไฟโชว์ คืนละ 1 ลำ พร้อมกับกระทงสาย(ไข่พญานาค) 6,000 ดวง ขณะที่ไฮไลท์ทั้งหมดจะอยู่ในวันที่ 13 ตุลาคม ที่จะเป็นการไหลเรือไฟทั้ง 13 ลำ เป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีว่าเรือไฟของอำเภอใดจะคว้าถ้วยรางวัลพระราชทานไปครอง โดยเฉพาะแชมป์เก่าอย่างเรือไฟอำเภอเมืองนครพนม ที่ครองแชมป์เรือไฟประเภทสวยงามถึง 2 ปีซ้อน(2560-61) ปีนี้จัดหนักกว่าเดิมเพราะสร้างเรือไฟที่มีความยาวถึง 110 เมตร สูง 30 เมตร เทียบเท่ากับตึก 10 ชั้น ประกาศป้องกันแชมป์ได้ไว้แน่ พร้อมกับกระทงสายอีก 12,000 ดวง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความงดงามกลางลำแม่น้ำโขง ส่วนกรรมการผู้ตัดสินเรือไฟได้รับเกียรติจากผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดนครพนม และศาลเยาวชน พร้อมผู้ทรงวุฒิจากหลายหน่วยงาน
นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมการไหลเรือไฟโบราณ ที่เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงาน สามารถนำเรือไฟขนาดเล็กที่ประดิษฐ์จากกาบกล้วยมาวางบนเรือไฟโบราณเพื่ออธิษฐานขอพร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำไปปล่อยกลางลำน้ำโขงให้ โดยความพิเศษจะอยู่ที่มีการสร้างเป็นปีนักษัตรให้ผู้ที่เกิดแต่ละปีได้ร่วมกันลอยความทุกข์ ความเศร้าออกไปจากชีวิตตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณ
สำหรับการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟ มีหลายหน่วยงานแบ่งโซนแจกความบันเทิงอย่างหลากหลาย อาทิ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดงานโขงนทีประเพณีไทย กลางลำแม่น้ำโขง เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงรัชกาลที่ 9 มีการแสดงม่านน้ำประกอบบทเพลงพระราชนิพนธ์โดยวงออร์เคสตรา และนกน้อยอุไรพร ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม นายสมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.ฯ เอาใจมิตรหมอแคนแฟนหมอลำ จัดคอนเสิร์ตหมอลำชื่อดังแสดงซอดแจ้ง
ส่วนนายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม จัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีสัมพันธ์ไทยลาว ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระกนิษฐษธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ระเบิดวันชิงจ้าวแห่งลำน้ำโขง บึ๊ดจ้ำบึ๊ด จ้ำบึ๊ด จ้ำบึ๊ด วันที่ 9-12 ตุลาคม
นอกจากนี้มีการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม(ทกจ.ฯ) ร่วมจัดนิทรรศการวิถีชีวิตคนทำเรือไฟ ชมขบวนพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์และขบวนแห่ปราสาทผึ้ง พิธีรำบูชาพระธาตุพนม การแสดงศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิต 8 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ การแสดงหมอลำพื้นบ้านอีสาน การเดินแบบผ้าลายมุก การประกวด B-BOY And Cover Dance Contest 2019 การประกวด To Be Number One Idol /Dancercise การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง/วงดนตรีลูกทุ่ง การออกร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และสินค้าขึ้นชื่อของจังหวัดนครพนม ขณะที่นักเรียน นักศึกษา ก็ถืออีกหนึ่งโอกาสที่นอกจากจะได้เที่ยวงาน ได้เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมที่ดีงามแล้ว ยังสามารถผลิตคลิปสั้นเพื่อส่งเข้าประกวดชิงเงินรางวัล
สิ่งที่น่าสนใจนอกจากการชมประเพณีไหลเรือไฟอันยิ่งใหญ่แล้ว กิจกรรมออกร้านกาชาดปีนี้รางวัลใหญ่ยังคงเป็นรถยนต์กระบะ แต่ได้อัพเกรดจากกระบะแค๊บมาเป็นรถกระบะ Double CAB 4 ประตู แต่ราคาบัตรกาชาดยังคงจำหน่ายเท่าเดิมคือใบละ 50 บาท นักท่องเที่ยวหรือประชาชนอยากเป็นเจ้าของรถยนต์ราคาที่ถูกที่สุดในโลกเพียงคันละ 50 บาท(ราคาปกติประมาณ 700,000 บาท) ในหนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียวสามารถซื้อบัตรกาชาดได้ภายในงาน อยู่หน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม(หลังเก่า) จนถึงวันที่ 14 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันจับฉลากหาผู้โชคดีรับรถยนต์กระบะ 4 ประตู คันละ 50 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เป็นการยึดถือปฏิบัติประจำทุกปี ก่อนจะเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ จะต้องจัดพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดนครพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล ในการจัดงานประเพณีไหลเรือไฟ และงานกาชาดประจำปี 2562 ตามคติความเชื่อและศรัทธาของคนลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อว่าการกราบไหว้ขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพนับถือก่อนเปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ เพื่อให้งานดำเนินการไปด้วยความราบรื่น
วันที่ 4 ตุลาคม 2562 เวลา 09.00 น. นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม พร้อมรอง ผวจ.ฯ และหัวหน้าส่วนราชการ ได้เดินทางกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เริ่มจากศาลหลักเมือง และพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าหอสมุดเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ถนนอภิบาลบัญชา จากนั้นเดินทางไปยังจวนผู้ว่าราชการจังหวัด(หลังเก่า) ริมฝั่งโขง ถนนสุนทรวิจิตร ไหว้ศาลพระภูมิบริเวณหน้าจวน และศาลเจ้าที่บริเวณหลังจวน ซึ่งจวน ผวจ.ฯหลังเก่านี้ ในระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน 2498 ในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินี เสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทางจังหวัดจึงจัดให้จวนแห่งนี้เป็นที่ประทับแรม ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
ต่อมา ก็ไปยังศาลเจ้าพ่อคำแดง ถนนสุนทรวิจิตร ผู้ปกปักษ์ดูแลลูกหลานตามริมแม่น้ำโขง,พระติ้ว พระเทียม วัดโอกาสศรีบัวบาน,ศาลเจ้าพ่อหมื่น ศาลปู่-ย่า,พญาศรีสัตตนาคราช,หลวงปู่จันทร์ พระแสง วัดศรีเทพประดิษฐาราม,เจ้าพ่อสิบสอง และเจ้าพ่อสัมมาติ
งานประเพณีไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2562 คาดจะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศจำนวนเรือนแสน มาชมประเพณีโบราณ วิถีชีวิตของคนลุ่มแม่น้ำโขง ที่มีความผูกพันกับกระแสน้ำมาอย่างยาวนานนับพันปี ดังนั้น การจัดงานประเพณีไหลเรือไฟ จะมีขึ้นในช่วงทศกาลออกพรรษาของทุกปีเท่านั้น เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ตลอดจนเป็นการขอขมาลาโทษต่อแม่น้ำโขง ที่ใช้หล่อเลี้ยงชีวิต ตามคติความเชื่อว่าเป็นการเผาทุกข์ลอยเคราะห์ไปกับสายน้ำ
ซึ่งตลอดทั้งงานจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม บูรณาการร่วมกับ มณฑลทหารบกที่ 210(มทบ.210) กองอาสารักษาดินแดน(อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน(อปพร.) ตำรวจท่องเที่ยว,ทางหลวง,ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) ตำรวจอาสา ฯลฯ คอยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยให้กับผู้ที่มาร่วมงานตลอดเวลา ส่วนหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง(นรข.) ตำรวจน้ำ และกรมเจ้าท่า ดูแลความปลอดภัยทางน้ำ