เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ที่ศูนย์ประสานงานการเลือกตั้งไปรษณีย์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมด้วยนายดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทไปรษณีย์ไทย นำคณะสื่อมวลชนร่วมติดตามการนับจำนวนและคัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง ที่ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และบัตรลงคะแนนผู้พิการ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา รวมถึงบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร

นายดนันท์ กล่าวว่า ขณะนี้บัตรเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร ทยอยเข้ามากว่า 60,000 ใบ หรือประมาณ 67 เปอร์เซ็นต์ 45 ประเทศ จากจำนวนทั้งหมด 67 ประเทศ โดยมีคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือกรมการกงสุล กกต. และไปรษณีย์ ตรวจคัดแยก ส่วน บัตรเลือกตั้งล่วงหน้า ได้ถูกขนส่งมายังศูนย์คัดแยกบัตรลงคะแนนเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างทำการคัดแยกโดยคณะกรรมการ ประกอบด้วย กกต. และไปรษณีย์ เบื้องต้นอยู่ในส่วนของการตรวจนับ และคัดแยก ยังไม่ถึงการคัดกรองที่จะตรวจเรื่องการจ่าหน้าซองบัตร

อย่างไรก็ตาม กระบวนการคัดแยก ตรวจสอบจะใช้เวลาช่วง 7-9 พฤษภาคม หรือช้าสุดคือวันที่ 10 พฤษภาคมนี้ และจะเริ่มส่งไปยัง 400 เขต คาดว่าจะถึงภูมิลำเนาของภายในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ ยืนยันว่าการดำเนินการในศูนย์คัดแยกจะมีวอร์รูมคอยมอนิเตอร์ดูการทำงานตลอด 24 ชั่วโมง มีเจ้าหน้าที่กกต.มาร่วมทำงานด้วย สำหรับเจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่ได้ต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตน ห้ามนำอุปกรณ์โทรศัพท์มือถือเข้าไป และเมื่อออกจากศูนย์จะต้องมีการตรวจค้นก่อน สำหรับขั้นตอนการตรวจนับและคัดแยกบัตรเลือกตั้ง จะตรวจรหัสซ้ำ 3 รอบ เพื่อให้แน่ใจว่าบัตรลงคะแนนจะถูกส่งตรงตามที่ผู้ลงคะแนน” นายดนันท์ กล่าว

ขณะที่นายแสวง กล่าวว่า จำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 91.83 % ต้องขอบคุณผู้มาใช้สิทธิที่มาด้วยแรงศรัทธาประชาธิปไตย ซึ่งสำนักงานกกต.สัญญาว่าจะรักษาทุกเสียงที่ประชาชนได้ลงคะแนนไว้ ส่วนกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) และอนุกรรมการประจำเขต ซึ่งการทำงานอาจจะมีการผิดพลาดบ้าง แต่ขอบคุณที่อดทนทั้งต่อสภาพอากาศ และแรงเสียดทานทางการเมือง รวมถึงประชาชนที่ร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กปน. และกกต. ซึ่งมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จ แต่สั่งให้ผอ.กกต.ทุกจังหวัด รายงานเข้ามาทุกเรื่องที่ปรากฏเป็นข่าวว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีการแก้ไขอย่างไร เป็นเรื่องดี ที่สิ่งที่ทำอยู่นั้นอยู่ในสายตาของประชาชนเสมอ

นายแสวง กล่าวต่อว่า ส่วนวันเลือกตั้งวันที่ 14 พฤษภาคม จะไม่ให้มีสิ่งผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเกิดขึ้นอีก และคาดว่าเลือกตั้งวันดังกล่าวการบริหารจัดการจะง่ายกว่านี้ เพราะไม่ต้องส่งบัตรทางไปรษณีย์ และบุคลากรที่จะทำงานมีมากกว่านี้ การลงคะแนนตรงตามหน่วยเลือกตั้งนั้นประชาชนจะไม่สับสน แต่คิดว่าเรื่องหีบไม่ใช่เรื่องสำคัญ สิ่งสำคัญคือปัญหาการจ่าหน้าซอง แต่ยืนยันว่ามีกระบวนการตรวจสอบ ขอให้ผู้ใช้สิทธิมั่นใจว่าซองบรรจุบัตรเลือกตั้งจะถูกส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

นายแสวง กล่าวต่อว่า ส่วนกระบวนการตรวจสอบคัดแยกบัตร กรณีกรรมการประจำหน่วยเขียนรหัสจังหวัด หรือเขตเลือกตั้งผิดพลาดหลังปิดหีบจะมีการตรวจสอบว่าต้นขั้วที่ใช้ไป กับจำนวนบัตรที่ออกเสียงตรงกันหรือไม่ และกรรมการประจำหน่วยจะทำบัญชีมา เมื่อไปรษณีย์ได้รับถุงบัตรมาแล้ว จะทำการตรวจเบื้องต้น เมื่อคัดแยกเสร็จจะดูว่าจำนวนซองที่คัดแยกกับยอดต้นขั้วตรงกันหรือไม่ ดังนั้นยอดจะกระทบกันโดยอัตโนมัติ ส่วนที่อาจจะมีปัญหา

“ถ้ามีการจ่าหน้าซอง ถ้าถูกต้องทั้ง 3 จุด จะถูกแยกออกไปเลย แต่ถ้ามีปัญหากรอกครบ แต่เขียนเขต หรือรหัสเลือกตั้งผิด จะยึดรหัสเขตเลือกตั้ง 3 ตัวท้าย ซึ่งอยู่ด้านล่างของซองเป็นหลัก แต่ถ้ากรอกไม่ครบ หรือไม่มีรายละเอียดใดๆ หรือไม่มีการกรอกอะไรเลย ซึ่งส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะมี กรณีนี้จะถูกส่งมาให้คณะกรรมการ ที่มีเจ้าหน้าที่ กกต. และไปรษณีย์วินิจฉัยว่าซองนี้จะไปลงเขตใด ซึ่งจะต้องไปสอบทานกับต้นขั้วก่อน ยอมรับว่าอาจจะยุ่งยากพอสมควร” นายแสวง กล่าว