“บอร์ด สมอ.” ไฟเขียวให้กระดาษสัมผัสอาหาร และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เป็นสินค้าควบคุม มีผลบังคับใช้ปี 67
3 พ.ค. 2566, 11:02
นายสุรพล ชามาตย์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (กมอ.) หรือบอร์ด สมอ. เปิดเผยภายหลังการประชุมเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2566 ที่ผ่านมาว่า บอร์ด สมอ. มีมติเห็นชอบให้ สมอ. ควบคุมความปลอดภัยของกระดาษสัมผัสอาหารสำหรับปรุงอาหารด้วยความร้อน และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เป็นสินค้าควบคุม เพื่อยกระดับการคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนตามนโยบายของกระทรวงอุตสาหกรรม เนื่องจากกระดาษสัมผัสอาหารสำหรับปรุงอาหารด้วยความร้อน เช่น ถุงชา กระดาษกรองกาแฟ และกระดาษรองเบเกอรี่ในเตาอบ เป็นต้น ได้รับความนิยมจากประชาชนผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก หากไม่ได้มาตรฐานอาจมีสารโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพปนเปื้อนออกมากับอาหารได้ สำหรับแบตเตอรี่ก็เป็นหัวใจสำคัญของยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บพลังงานเพื่อป้อนกระแสไฟฟ้าให้แก่ระบบขับเคลื่อนของยานยนต์ไฟฟ้า หากแบตเตอรี่ไม่ได้มาตรฐานก็ไม่ต่างจากระเบิดเวลา ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่และผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนและที่อยู่อาศัยได้ ดังนั้น บอร์ดฯ จึงเห็นชอบให้ สมอ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ที่ได้กล่าวมา นอกจากนี้ ยังได้เห็นชอบมาตรฐานอื่นๆ อีก 16 มาตรฐาน อาทิ เครื่องบดทิ้งเศษอาหาร เครื่องซักฟอกทางอุตสาหกรรม แบตเตอรี่ลิเธียมสำหรับงานอุตสาหกรรม และแบตเตอรี่สำหรับรถยกหรือหัวรถจักร เป็นต้น
ด้าน นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีสินค้าจำนวน 140 รายการ ที่ สมอ. ประกาศเป็นสินค้าควบคุมเนื่องจากเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ของประชาชน สำหรับกระดาษสัมผัสอาหารสำหรับปรุงอาหารด้วยความร้อน ครอบคลุมถึงกระดาษที่ใช้ในการทำอาหารที่ต้องผ่านความร้อน เช่น กระดาษที่ใช้กับหม้ออบลมร้อน ถุงชา กระดาษกรองกาแฟ กระดาษรองเบเกอรี่ในเตาอบ เป็นต้น โดยมาตรฐานนี้กำหนดให้กระดาษต้องทำจากเยื่อบริสุทธิ์หรือเยื่อบริสุทธิ์ผสมเส้นใยสังเคราะห์ที่ไม่ใส่สีในเนื้อกระดาษ ใช้เพื่อกรองของเหลวร้อน อุ่นอาหาร หรือปรุงอาหาร ที่อุณหภูมิไม่เกิน 220 องศาเซลเซียส โดยในมาตรฐานมีข้อกำหนดในการควบคุมการปนเปื้อนของสารโลหะหนักที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม ปรอท ฯลฯ เมื่อกระดาษโดนความร้อนต้องมีการปนเปื้อนไม่เกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนด และต้องไม่มีสารฟอกนวลและสารต้านจุลินทรีย์ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
สำหรับแบตเตอรี่ยานยนต์ไฟฟ้าที่ สมอ. จะประกาศเป็นสินค้าควบคุมนั้น ครอบคลุมแบตเตอรี่ที่ใช้ขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ไซค์ รถตุ๊กตุ๊ก รถสามล้อขนาดเล็ก รถยนต์ รถกระบะ รถบัส รถบรรทุกขนาดเล็ก รถบรรทุกขนาดใหญ่ รวมทั้งแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริด เป็นต้น ยกเว้นแบตเตอรี่ที่ทำจากตะกั่วกรด ซึ่งมีข้อกำหนดที่สำคัญ คือ เมื่อเกิดแรงกระแทกในการขับขี่จะต้องไม่เกิดการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลต์ (สารเคมีซึ่งอยู่ในแบตเตอรี่ที่อาจติดไฟได้) ไม่มีการแตกร้าว และไม่มีไฟไหม้หรือการระเบิด เป็นต้น ทั้งนี้ การบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวเป็นไปตามแผนการบังคับใช้ผลิตภัณฑ์ EV ที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ด EV) ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งเป็นรถยนต์กลุ่มใหญ่ของประเทศ ให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่การผลิตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าได้ ตลอดจนเตรียมการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน โดย สมอ. จะดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการทางกฎหมายต่อไป ซึ่งคาดว่าจะสามารถประกาศบังคับใช้ทั้ง 2 มาตรฐานดังกล่าวได้ภายในปี 2567 เลขาธิการ สมอ. กล่าว