ตร.สรุปคดี "ทำลายป้ายหาเสียง" ทั้งหมด 54 คดี จำนวน 639 ป้าย
21 เม.ย. 2566, 15:47
วันนี้ ( 21 เม.ย.66 ) พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร./ โฆษก ศูนย์รักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศลต.ตร.) เปิดเผยว่า ศลต.ตร.ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศลต.ตร. ได้แถลงในการประชุมเปิดศูนย์รักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับการทำลายป้ายหาเสียง วานนี้ ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา พบว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงทั้งหมด 639 ป้ายนั้น เกิดจากหลายสาเหตุ แยกออกเป็นเหตุจำนวน 54 คดี
1. มีการดำเนินคดีเสร็จสิ้นไปแล้ว และมีคำพิพากษาของศาลแล้ว จำนวน 4 คดี ซึ่งคำพิพากษามีตั้งแต่ให้ลงโทษจำคุก 3 เดือน (ความผิดเสพยาเสพติด จำคุก 1 เดือน + เพิ่มโทษกรณีกระทำผิดซ้ำอีก 1 เดือน และกรณีทำให้เสียทรัพย์ จำคุก 1 เดือน) และมีคำพิพากษาให้จำคุก 2 เดือน โทษจำคุกรอลงอาญาไว้ 1 ปี และปรับเป็นเงินจำนวน 5,000 บาท
2. อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล จำนวน 1 คดี , แจ้งข้อกล่าวหาแล้วอยู่ระหว่างการรอผลประวัติ และใบรับรองแพทย์เกี่ยวกับอาการทางจิตเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวน จำนวน 1 คดี
3. อยู่ระหว่างการสืบสวน จำนวน 27 คดี
4. ไม่ประสงค์ดำเนินคดี ผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน / ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ยอมความในชั้นสอบสวน จำนวน 18 คดี
5. พบปรากฏข่าวในหน้าสื่อโซเชียล หรือ โทรทัศน์ เมื่อไปตรวจสอบแล้ว เป็นเหตุจากภัยธรรมชาติ , ไม่พบป้ายที่ถูกทำลายนั้นๆ และ ไม่มีการมาลงประจำวันแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษของผู้เสียหาย จำนวน 3 คดี
นอกจากนี้ โฆษก ศลต.ตร. กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกกองบัญชาการ ประสานกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อทำการจัดการอบรมความรู้ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยการจัดการเลือกตั้ง ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พ.ศ.2566 เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายเข้าใจบทบาทและหน้าที่ตามกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ และคำสั่งของ กกต. ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งในครั้งนี้ พร้อมกำชับให้วางตัวเป็นกลางทางการเมือง หากพี่น้องประชาชนไม่ได้รับความสะดวก หรือพบเห็นการกระทำความผิด โปรดแจ้งสายด่วน 191 , 1599 หรือสถานีตำรวจในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมที่จะดูแล บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชนในทุกภารกิจ