ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า ที่โรงพยาบาลมหาสารคาม นางสาวรัศมี เกตุธานี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ หอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูกและข้อหญิง-เด็ก เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้รับผู้ป่วยส่งต่อจากโรงพยาบาลนาเชือก เพื่อมารักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาสารคาม เป็นเด็กชายวัย 12 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดจากการจุดประทัดลูกบอล ทำให้มีบาดแผลฉีกขาดที่มือซ้าย นิ้วชี้และนิ้วกลางขาด ส่วนนิ้วโป้งและนิ้วนาง มีบาดแผลฉีกขาด ตามลำตัว มือขวา และบริเวณใบหน้า มีร่องรอยการถูกสะเก็ดระเบิด ถูกส่งตัวมาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2562 เพื่อให้แพทย์ผ่าตัด ตกแต่งแผลจากการถูกประทัดระเบิดใส่นิ้วมือ โดยแพทย์ต้องตัดนิ้วชี้ออกหนึ่งข้อ และนิ้วกลางสองข้อ เนื่องจากเป็นบาดแผลฉกรรจ์ และเย็บแผลที่ฉีกขาดที่นิ้วโป้งและนิ้วนาง เนื่องจากแผลลึกถึงกระดูก โดยการผ่าตัดเป็นไปได้ด้วยดี ขณะนี้อยู่ระหว่างพักฟื้น ทั้งนี้ในช่วงใกล้เทศกาลออกพรรษา ในทุก ๆ ปี จะพบผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ปีนี้ ด.ช.วัย 12 ปีคนนี้ถือเป็นรายแรกที่ถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลมหาสารคาม

 

ขณะที่ ด.ช. ผู้ได้รับบาดเจ็บจากประทัด  เล่าว่า  วันเกิดเหตุได้เล่นกับเพื่อนอยู่ที่โรงเรียน  โดยได้พากันไปซื้อประทัดลูกบอลมาจากร้านค้าในหมู่บ้าน  แล้วนำมาดัดแปลงโดยการแกะดินปืนออกและนำมายัดใส่ก้านมะละกอขนาดยาวประมาณ 5 เซนติเมตร  จากนั้นนำมาพันเทปพันสายไฟ  แล้วนำไปจุดด้วยไฟแช็ค  แต่ชนวนที่ยื่นออกมามันสั้นเกินไป  ทำให้ขว้างออกไปไม่ทัน  จนเกิดระเบิดขึ้น  พอเห็นแผลก็รู้สึกตกใจมาก  ไม่คิดว่าจะรุนแรงถึงขนาดนี้  จึงได้วิ่งไปหาครู  และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

ด้านนางพุทธ  วรลักษณ์  ยายของเด็กชายวัย 12 ปี  กล่าวว่า  พอทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมาก  ไม่คิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับหลานของตนเอง  ทั้งตกใจ  ทั้งโกรธหลาน  ที่พูดแล้วไม่ฟัง  เคยบอกว่าอย่าเล่นประทัด  เราให้เงินไปโรงเรียนก็ไม่รู้ว่าหลานจะเอาเงินไปซื้อประทัดมาจุด  ไม่อยากให้ร้านค้าในหมู่บ้านนำประทัดลูกบอล  หรือประทัดสามเหลี่ยมมาขาย  เพราะหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นมามันกลับไปแก้ไขไม่ได้  เหมือนหลานตนที่ต้องกลายเป็นคนพิการ  สูญเสียอวัยวะ  อยากฝากเตือนไปยังผู้ปกครองให้ดูแลบุตรหลานดี ๆ ไม่ให้เล่นประทัด  รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้มงวดไม่ให้มีการขายประทัด  ดอกไม้ไฟในหมู่บ้าน  เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น