วันนี้ ( 6 มี.ค.66 ) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยินดีที่ประเทศไทยมีชื่อเสียงโดดเด่นด้านการท่องเที่ยว และยังคงติดอันดับต้นๆ ของการสำรวจในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำความสำคัญอุตสาหกรรมท่องเที่ยว พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน 

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า Kiplinger วารสารด้านการวิเคราะห์แนวโน้มธุรกิจของของสหรัฐฯ เผยแพร่การจัดอันดับประเทศทั่วโลกที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับนักท่องเที่ยวน้อยที่สุด 10 อันดับ ประเทศไทยอยู่ในอันดับ 4 โดยมีค่าใช้จ่ายรายวันเฉลี่ย 52 ดอลลาร์สหรัฐฯ ค่าที่พักเฉลี่ย 21 ดอลลาร์สหรัฐฯ/วัน และค่าอาหารเฉลี่ย 14 ดอลลาร์สหรัฐฯ/วัน ซึ่งในการจัดอันดับยังระบุว่า แม้ค่าตั๋วเครื่องบินมายังประเทศในเอเชียใต้ช่วงนี้อาจมีราคาสูง แต่สามารถชดเชยได้ด้วยค่าใช้จ่ายอื่น ทั้งนี้ ประเทศไทยมีชื่อเสียงเรื่องชายหาดเขตร้อน วัดป่า พระพุทธรูป ร้านอาหารอร่อยๆ และตลาดนัด (Street market) ในเมืองอย่างกรุงเทพฯ จึงไม่น่าแปลกใจที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (https://www.kiplinger.com/personal-finance/spending/cheapest-countries-to-travel-to)

ซึ่งการจัดอันดับคำนึงถึงค่าใช้จ่ายรายวันโดยรวมเฉลี่ย ที่อาจต้องจ่ายเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง และยังรวมถึงที่พัก อาหาร และค่าครองชีพรายวัน แต่ไม่คำนึงถึงค่าตั๋วเครื่องบิน เนื่องจากค่าตั๋วเครื่องบินจะแตกต่างกันไปมากขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของปีที่เดินทาง สถานที่ต้นทาง และปลายทาง โดยการจัดอันดับดังกล่าวประเทศที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด ได้แก่ ประเทศลาว ตุรกี และอินโดนีเซียตามลำดับ

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ล่าสุด ประเทศไทยยังได้รับคัดเลือกให้เป็น “จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยอดเยี่ยม” จากงาน Grand Travel Award 2023 คู่กับประเทศอิตาลี ทั้งนี้ งาน Grand Travel Award เป็นพิธีมอบรางวัลที่ใหญ่ที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในสวีเดน ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีตั้งแต่ปีพ.ศ. 2536 โดยผู้ชนะจะได้รับการคัดเลือกจากการสำรวจในหมู่นักเดินทางชาวสวีเดน และตัวแทนการท่องเที่ยว (travel agencies) ทั่วประเทศ

“นายกฯ ยินดีที่การท่องเที่ยวไทยยังคงติดอันดับต้น ๆ ของการสำรวจในมิติต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งการพัฒนาคุณภาพ และความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาและฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน เร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังคำนึงถึงและควบคุมสินค้า บริการ และราคาค่าโดยสารไม่ให้แพงเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ซึ่งกล่าวได้ว่า ไทยมีคุณภาพและราคาไม่แพง ทั้งนี้ คนไทยสามารถเข้าถึงการท่องเที่ยวในประเทศในราคาถูกผ่านโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ที่รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนเป็นเฟลที่ 5 แล้ว” นายอนุชาฯ กล่าว