นายกฯ สั่งแก้ปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี เร่งด่วน
22 ก.พ. 2566, 15:39
วันนี้ (22 ก.พ. 66) เวลา 10.30 น. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ณ วัดเขาตาหน่วย ตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอำเภอแหลมสิงห์ และตรวจพื้นที่บริเวณบ้านประชาชน ที่ได้รับผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พร้อมรับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลและบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเป็นระบบ ภายใต้การบูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่ให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยมครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ตรวจพื้นที่บริเวณบ้านประชาชนที่ได้รับผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งประชาชนขอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการกัดเซาะชายฝั่งทะเลดังกล่าวรวมถึงการสนับสนุนงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล บริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรีด้วย โดยนายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นด้วยความห่วงใย พร้อมมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมโยธิการและผังเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการทำงานร่วมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และในจุดวิกฤตให้เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาก่อนภายใน 3 เดือน โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้นำเสนอโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล ด้วยการก่อสร้างแบบผสมผสานโดยใช้ทั้งหินและไม้ไผ่ พิจารณาตามสภาพปัญหาบริเวณที่ถูกกัดเซาะ ซึ่งหากบริเวณใดที่ถูกกัดเซาะมากก็จะก่อสร้างด้วยหิน ขณะที่บริเวณใดที่มีสภาพถูกกัดเซาะไม่มากจะเป็นการดำเนินการด้วยไม้ไผ่ ใช้งบประมาณดำเนินการประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาท พร้อมกันนี้จะมีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่กำหนดไว้ร่วมกันเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนต่อไป
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังรายงานสภาพปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์และปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในฤดูแล้งของพื้นที่อําเภอแหลมสิงห์จากผู้แทนประชาชน โดยขอให้ทางภาครัฐเข้ามาดำเนินการแก้ปัญหา และสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์โดยเร็วด้วย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเล พร้อมขอให้รัฐบาลดำเนินการปรับปรุงขยายเขตประปาให้มีน้ำเพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้ง โดยผู้แทนการประปาส่วนภูมิภาคได้รายงานถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำประปา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้รับฟังรายงานแนวทางการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลฯ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยมีระดับความรุนแรงและสาเหตุที่แตกต่างกันไป ทั้งจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสภาวะคลื่นลมที่รุนแรงผิดปกติ ฯลฯ และที่มีสาเหตุมาจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การก่อสร้างโครงสร้างชายฝั่งรุกล้ำลงในทะเล และการใช้ประโยชน์ที่ดินริมชายฝั่งที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ทั้งนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการในพื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตามการร้องขอของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย ทำให้พื้นที่ดำเนินงานเป็นไปในลักษณะอยู่ตามพื้นที่ที่มีความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งต่อมากรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เสนอแนวคิดในการแบ่งพื้นที่ชายฝั่งเป็นระบบกลุ่มหาด เพื่อการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งและบริหารจัดการพื้นที่ชายฝั่งอย่างเป็นระบบ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ในการจัดทำแผนงาน/โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ดังนั้น กรมโยธาธิการและผังเมือง จึงได้ดำเนินโครงการศึกษาเพื่อกำหนดแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง โดยนำแนวคิด “ระบบกลุ่มหาด” มาใช้เป็นแนวทางในการศึกษา เพื่อสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ในการจัดการชายฝั่งโดยใช้ระบบกลุ่มหาด พร้อมทั้งจัดทำแผนหลักแนวทางและมาตรการการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ ให้กับชายฝั่งที่ประสบปัญหาการกัดเซาะอย่างบูรณาการและเกิดผลสัมฤทธิ์
สำหรับเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ชายฝั่งทะเลบริเวณองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะเปริด ความยาวโครงการประมาณ 1,800 เมตร โดยได้มีการศึกษาแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง และออกแบบรายละเอียดโครงสร้างป้องกันชายฝั่งแล้วเสร็จแล้ว และจะนำโครงการดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการในเรื่องของงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ต่อไป
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการเดินทางมาจังหวัดจันทบุรีว่า เพื่อมาพบปะเยี่ยมเยียนชาวจันทบุรีอีกครั้ง ซึ่งหลายครั้งก่อนหน้านั้นก็ได้มาขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก สำหรับการเดินทางมาจังหวัดจันทบุรีครั้งนี้ เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการติดตามการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอำเภอแหลมสิงห์อย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง โดยรับทราบถึงสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น และเข้าใจถึงความเดือดร้อนของปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง ทั้งความเสียหายต่อบ้านเรือน ที่พักอาศัย พื้นที่เศรษฐกิจ และพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงาน และดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อย่างเร่งด่วน ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีพร้อมรับเรื่องที่ประชาชนร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือ ทั้งเรื่องของปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์และปัญหาการขาดแคลนน้ำประปาในฤดูแล้ง ของพื้นที่อําเภอแหลมสิงห์จากผู้แทนประชาชน โดยได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการโดยเร็วเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายกรัฐมนตรีย้ำว่า ขณะนี้ต้องเร่งพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็งขึ้น โดยต้องมีการทำอาชีพอื่นควบคู่การทำการเกษตรด้วยเพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ขณะที่การปลูกพืชและผลไม้ต้องผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการลดต้นทุนการผลิต ซึ่งจังหวัดจันทบุรีถือเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงในทุกด้าน ทั้งในด้านการเกษตร อาหาร การท่องเที่ยว รวมถึงแหล่งผลิตอัญมณีที่สำคัญ ซึ่งต้องมีการพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มมูลค่าให้มากขึ้น อีกทั้งจังหวัดจันทบุรียังเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ มีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเป็นประตูเชื่อมโยงการค้าและการลงทุนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านได้ เพื่อต่อยอด สร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้แก่พื้นที่ได้อย่างยั่งยืน เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องจริงจังที่มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ประชาชนเสมอมา รวมทั้งผลักดันการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งการสร้างโครงพื้นฐานและโครงข่ายคมนาคมให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อกระจายความเจริญและโอกาสทางเศรษฐกิจไปยังพื้นที่ต่าง ๆ รวมถึงเมืองรองต่าง ๆ สร้างงาน สร้างอาชีพ และรายได้ให้กับประชาชนมีคุณพภาพชีวิตที่ดีขึ้น
นายกรัฐมนตรีขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ที่ได้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่ประชาชนให้อยู่ดีกินดี มีที่อาศัย มีความสุขอย่างยั่งยืน และร่วมกันทำให้ประชาชนปลอดภัย ทั้งนี้ แม้โลกยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงและเจริญไปมากแต่สิ่งสำคัญคือประเทศไทยต้องมีความรักสามัคคีกันบนพื้นฐานของชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน ปลอดภัยและมีความสุข
ทั้งนี้ ในช่วงเช้า ก่อนเดินทางมาพบประชาชนเพื่อรับฟังปัญหาการกัดเซาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลอําเภอแหลมสิงห์ นายกรัฐมนตรีและคณะได้เข้าสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดจันทบุรี โดยนายกรัฐมนตรีได้เติมน้ำมันตะเกียง จุดธูปเทียน ถวายพวงมาลัย ปิดทอง ผูกผ้ามงคล พร้อมสักการะศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคล และโอกาสเดียวกันที่วัดเขาตาหน่วย นายกรัฐมนตรียังได้สักการะพระประธานในพระอุโบสถ และนมัสการเจ้าอาวาสวัดเขาตาหน่วย ก่อนเดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลพระปกเกล้า ตำบลวัดใหม่ อำเมืองจันทบุรี เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของโรงพยาบาลพระปกเกล้าต่อไป