ส.จ.ดังโคราช ปลด-รื้อป้ายหน้าสำนักงานเพื่อไทย หลังโดนปลดฟ้าผ่า ก่อนซบ รทสช.
1 ก.พ. 2566, 18:24
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ สำนักงาน ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา เลขที่ 333/6 หมู่ที่ 8 ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ของนายชยุต พงศ์ธนทรัพย์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา อำเภอครบุรี เขต 1 โดยก่อนหน้านี้ทางพรรคเพื่อไทยเปิดตัวเป็น ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ในพื้นที่อำเภอครบุรี และอำเภอเสิงสาง ซึ่งได้ใช้เวลา 3 ปีเดินหาเสียงมาโดยตลอด ภายหลังได้มีกระแสข่าวว่าจะมีโรงแป้งมันรายใหญ่ในพื้นที่ จะย้ายออกจากพรรคภูมิใจไทย หันมาซบพรรคเพื่อไทย และแล้วก็เป็นจริงตามข่าว จึงทำให้รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้สมาชิก 5-6 เขตเลือกตั้ง ต้องกระเด็นออกหมด เพราะทางโรงแป้งจะเอาสมาชิก ญาติพี่น้อง เข้ามาลงพื้นที่เพื่อนชิงชัยแทน จึงได้ตัดสินใจทำการปลดและรื้อป้าย หน้าสำนักงานที่มีภาพและข้อความเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย ที่ติดตั้งเอาไว้ทั้งหมด เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกผิดหวัง กับการกระทำของทางพรรคเพื่อไทย โดยมีประชาชนให้กำลังใจกว่า 200 คน ก่อนจะประกาศซบตัก พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มีนายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน อดีต ส.ส.ประจำพื้นที่อำเภอครบุรี เป็นผู้ก่อตั้งเพื่อเตรียมสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้
นายชยุต พงศ์ธนทรัพย์ ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า พี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนสงสัยว่า ตนเองจะลงสมัครเข้ารับการเลือกตั้ง ส.ส. หรือไม่ หรือถอนตัวออกไปแล้ว จึงต้องประกาศให้ชาวอำเภอครบุรีได้รู้ว่า จะสู้กับการเลือกตั้งในครั้งนี้ หลังจากมีกระแสข่าวว่าตนถูกซื้อด้วยเงิน 3 ล้านบาทไม่ให้ลงเลือกตั้ง ขอบอกว่าต้องนี้ไม่เป็นจริง ไม่มีใครที่จะสามารถมาซื้อตนเองได้ เพราะพี่น้องประชาชนยังให้กำลังใจมาโดยตลอด ตนจะต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชน ซึ่งจะขอเป็นตัวแทนเพื่อเข้าไปต่อสู้ ให้เกษตรกร เพราะตนเองก็เป็นชาวไร่ชาวนาเหมือนกัน
ทั้งนี้ การปลดและรื้อป้ายหน้าสำนักงานที่มีภาพและข้อความเกี่ยวกับพรรคเพื่อไทย เพื่อแสดงท่าทีถูกปลดออกจากพรรค และไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งที่เปิดตัว ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครราชสีมา ไปแล้ว ต่อหน้าสื่อมวลชน แต่ภายหลังไปดึงเสี่ยโรงแป้งมาอยู่ในพรรคได้ กลับเตะสมาชิกพรรคออกทั้งหมด คาดว่าในพื้นที่โคราชมีไม่ต่ำกว่า 5-6 คน และยังมีอีกหลายจังหวัดทั่วประเทศ แต่ก็ยังมีพี่น้องประชาชนให้กำลังใจและสนับสนุน จึงเลือกที่จะต่อสู้และเดินหน้าต่อ จึงตัดสินใจสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อพร้อมลงต่อสู้ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงนี้