นายกฯ เร่งผลักดันความร่วมมือไทยและสหภาพยุโรป หลังลงนามร่าง PCA EU-Thai มุ่งเน้นผลประโยชน์ของประเทศ
12 ม.ค. 2566, 09:09
วันที่ 12 ม.ค. 66 นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เน้นย้ำให้เร่งการดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อผลักดันความร่วมมือไทยและสหภาพยุโรปให้มีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม หลังไทยและสหภาพยุโรปได้ลงนามร่าง PCA EU-Thai พร้อมมุ่งเน้นผลประโยชน์ของไทยและประชาชนชาวไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีร่วมในพิธีลงนามร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง (Framework Agreement on Comprehensive Partnership and Cooperation between the European Union and its Member States, of the one part, and the Kingdom of Thailand, of the other part) หรือ PCA EU-Thai ในระหว่างการประชุมยอดอาเซียน-สหภาพยุโรป สมัยพิเศษ ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยในการดำเนินการขั้นต่อไปกระทรวงการต่างประเทศเตรียมจะจัดกิจกรรมรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนเพิ่มเติม และเพื่อให้ร่าง PCA มีผลบังคับใช้ คณะรัฐมนตรีจะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบในการให้สัตยาบันต่อร่าง PCA เพื่อให้มีผลผูกพันไทย
ทั้งนี้ การลงนามร่าง PCA หลังใช้เวลาเจรจากันมานานกว่า 18 ปี นับได้ว่าเป็นความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ที่จะช่วยยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรปให้เป็นใกล้ชิดยิ่งขึ้น เป็นโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป ซึ่งสามารถต่อยอดในการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับการบริหารจัดการในสาขาต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงกฎระเบียบของไทยให้ทันสมัยสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและกระแสการพัฒนาของโลก ทำให้เป็นพื้นฐานสำคัญไปสู่การเปิดการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู รอบใหม่
“นายกรัฐมนตรียึดมั่นผลประโยชน์ของประเทศ และพี่น้องชาวไทย มุ่งยกระดับความสัมพันธ์กับมิตรประเทศให้ก้าวหน้า ซึ่งการลงนามร่าง PCA กับสหภาพยุโรป นอกจากจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับสหภาพยุโรปแล้ว ยังจะช่วยเพิ่มโอกาส เพิ่มช่องทางทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณทุกหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้อง ในความพยายามร่วมกันตลอด 18 ปีที่ผ่านมา จนสามารถก้าวผ่านอุปสรรคและความท้าทาย นำไปสู่การลงนามร่าง PCA กับสหภาพยุโรปได้ในที่สุด” นายอนุชาฯ กล่าว