นายกฯ พอใจรายงานเศรษฐกิจภูมิภาคดีทุกด้าน ผลจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค
30 พ.ย. 2565, 09:48
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพอใจรายงานตัวเลขภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนตุลาคม 2565 โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ซึ่งเศรษฐกิจภูมิภาคได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ในขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคก็ปรับตัวดีขึ้นในทุกภูมิภาค
เศรษฐกิจภาคใต้ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 22.8 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 42.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 40.7 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 92.6 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.1
เศรษฐกิจภาคเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 23.3 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 48.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.0 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 75.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 76.1
เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 24.5 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 50.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 48.7 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 88.4
เศรษฐกิจภาคตะวันออก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 10.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 49.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 102.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 100.7
เศรษฐกิจภาคตะวันตก มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ขยายตัวร้อยละ 44.9 ต่อปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3
เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 44.8 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.3 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3
เศรษฐกิจภาคกลาง มีการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 45.0 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 43.5 และดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.2 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 95.3
“รัฐบาลมั่นใจเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแล้วและเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ปีหน้า เศรษฐกิจจะขยายตัว 3.5-4% และการส่งออกจะเติบโต 3-5 % ขณะเดียวกัน รัฐบาลก็ได้เร่งส่งเสริมการลงทุน เศรษฐกิจการค้าชายแดน การผลักดันการส่งออก โดยเฉพาะการเร่งขับเคลื่อนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน มีการเตรียมเม็ดเงินลงทุนไว้แล้ว เพื่อพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ลดต้นทุนการขนส่ง ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ภายในระยะเวลา 8-10 ปี ข้างหน้า โดยจะเป็นการลงทุนทั้งในระบบสาธารณูปโภคและพลังงาน” นางสาวรัชดา กล่าว