จากกรณีที่เมื่อวันที่ 23 กย ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งจากนายเกษม สิงห์นาท ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่ามีผู้จมน้ำบริเวณฝายน้ำล้นบ้านคลองยาง หลังจากรับแจ้งพร้อมชุดประดาน้ำ ตรวจสอบที่เกิดเหตุในที่เกิดเหตุเป็นฝายน้ำล้น ที่ใช้เป็นเส้นทางเข้าออกได้พบน้ำมีระดับสูงและไหลแรงกว่าปกติ นอกจากนั้นยังพบหมวกกันน็อคสีดำ 1 ใบ ซึ่งทางเพื่อนผู้สูญหายยืนยันว่าเป็นของนาย Nishad Pappu Kumar เป็นชาวต่างชาติ (อินเดีย)ที่เข้ามาทำอาชีพขายของผ่อนร่วมกับพวกอยู่ที่กบินทร์บุรี โดยตลอดทั้งวันของเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยได้ระดมทีมประดานจากหน่วยกู้ภัยข้างเคียงเข้าช่วยเหลือในการค้นหา เนื่องจากกระแสน้ำแรงยนกต่อการค้นหา นอกจากนี้ได้รถแบ็คโฮ มาตักหญ้าผักชวาออก แต่จนแล้วจนรอดยังไม่เจอ ได้เพียงแต่รองเท้าผู้ตายข้างเดียว และยุติการค้นหน้าเมื่อ เวลา19.45 น .

 

อ่านข่าว :  ตามหา "หนุ่มอินเดีย" ขี่จยย.ลุยน้ำเชียว จ.ปราจีนฯ ถูกพัดร่าง-รถหายไปกับสายน้ำ

 

 

 

คืบหน้าตั้งแต่ช่วงเช้า เมื่อที่บริเวณฝายน้ำล้น ม.4 บ้านคลองยาง ต.นนทรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จุดเกิดเหตุนายราเจนด้า ปาสาด อาของผู้เสีย พร้อมเพื่อนๆ นาย Nishad Pappu Kumar และนายเกษม สิงห์นาท ผู้ใหญ่บ้านและกู้ภัยสัจจะ ฯได้ออกค้นหากันอีกครั้ง จนกระทั้งเวลาประมาณ 12.00 น เศษ จึงได้พบ กลับร่างของผู้เสียชีวิต โดยอยู่ห่าง จากจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นฝายกั้นน้ำ ประมาณ 800 เมตร โดยร่างของผู้เสียชีวิต ดังกล่าวได้รออยู่ใต้ก่อหญ้าในน้ำ ซึ่งการการที่เจ้าหน้าที่พร้อมกับญาติและเพื่อนๆของผู้ตาย ได้พบจุดที่ผิดสังเกต คือกอหญ้าที่พบศพนั้นมีอาการแห้งเฉาตาย และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงเจ้าหน้าจึงได้พายเรือเข้าไปแหวกดูจึงพบศพผู้เสียชีวิต สภาพที่พบคว่ำหน้า กำลังขึ้นอืดนอกจากนั้นร่างของผุ้เสียชีวิตยังใส่เสื้อกันฝนอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กบินทร์บุรี และแพทย์เวร รพ.กบินทร์บุรี ไม่พบบาดแผลที่เกิดจากการถูกทำร้ายร่างกาย จึงเชื่อได้ว่าผู้ตายได้ถูกกระแสน้ำพัดระหว่างขับขี่จักรยานยนต์ข้ามเส้นทางขณะที่มีน้ำหลาก จนทำให้ราางผู้เสียชีวิตจมน้ำและเสียชีวิตในที่สุด