นายกฯ กล่าวถ้อยแถลงในการประชุม ASEAN – UN ครั้งที่ 12 ย้ำบทบาทของสหประชาชาติในการเสริมสร้างสันติภาพ
12 พ.ย. 2565, 08:16
วานนี้(11 พ.ย. 65) เวลา 18.00 น. ณ โรงแรมสกคา กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมและกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน – สหประชาชาติ ครั้งที่ 12 โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน หรือผู้แทน และเลขาธิการสหประชาชาติ ร่วมกล่าวถ้อยแถลง โดยเป็นการประชุมเพื่อรับทราบความคืบหน้าและทบทวนความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับสหประชาชาติ ภายใต้แผนปฏิบัติการปี ค.ศ. 2021-2025 แลกเปลี่ยนมุมมองและวิสัยทัศน์ รวมทั้งกำหนดทิศทางและเป้าหมายในการดำเนินความร่วมมือระหว่างกันให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น ภายหลังเสร็จสิ้น นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้
นายกรัฐมนตรีแสดงความห่วงกังวลต่อสภาวะความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันของมหาอำนาจ และวิกฤตการณ์ที่ตามมา เช่น วิกฤตด้านอาหารและพลังงาน เงินเฟ้อและค่าครองชีพที่สูงขึ้นทั่วโลก รวมถึงความท้าทายอื่น ๆ ที่กระทบต่อความมั่นคงของมนุษย์และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เป็นต้น จึงเห็นว่า อาเซียนและสหประชาชาติควรกระชับความร่วมมือและเสริมสร้างความเกื้อกูลกันมากขึ้น รวมถึงร่วมสร้างบรรยากาศแห่งสันติภาพและความไว้วางใจกัน ทั้งนี้ สหประชาชาติสามารถเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแนวคิด จากการเผชิญหน้ากันมาสู่ความร่วมมือในทุกด้านที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธีเสริมสร้างความสงบสุขและเสถียรภาพในทุกภูมิภาค อันเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการเปิดพื้นที่ไปสู่ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม นำมาซึ่งความมั่นคง มั่งคั่งของโลกโดยรวม
โดยเวทีการประชุมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในภูมิภาคในห้วงเวลานี้ จะเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างบรรยากาศของการหันหน้าเข้าหากัน ส่งเสริมความไว้วางใจกัน และหาหนทางลดอุณหภูมิแห่งความขัดแย้ง ซึ่งไทยมุ่งมั่นให้เป็นเวทีเสริมสร้างปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านการพัฒนาเศรษฐกิจโลกและการฟื้นฟูในบริบทโลกหลังโควิด-19 ทั้งนี้ ไทยเห็นว่า การพบกันผ่านเวทีการประชุมเป็นโอกาสดีในการส่งเสริมความไว้ใจกัน ซึ่งในการประชุมเอเปคที่ไทยนั้น ไทยมุ่งหวังให้เป็นเวทีปฏิสัมพันธ์ที่สร้างสรรค์ ผ่านหัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” เพื่อความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจร่วมกัน