ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ค่าการตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ตำบลบ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน อยู่ที่ 60 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หลังจากมีฝนตกโปรยปรายลงมา ทำให้สามารถช่วยชะล้างหมอกควันไปได้บ้าง แต่ก็ยังสูงกว่าระดับมาตรฐาน (50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะเด็กและคนแก่ ทำให้มีอาการไอ แสบตา มึนศีรษะ เป็นหวัดคัดจมูก และยังส่งผลกระทบต่อชาวเรือประมงขนาดเล็กด้วย

โดยที่ท่าเรือหาดยาว ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พบว่า เรือประมงชายฝั่งจำนวนมากต้องจอดอยู่บริเวณท่าเรือ และอีกจำนวนมากต้องกลับเข้าฝั่ง หรือพยายามจับสัตว์ในบริเวณใกล้ฝั่งที่สุด เนื่องจากในทะเลถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันไฟป่า ที่ทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นได้เพียงประมาณ 100-200 เท่านั้น ซึ่งจะทำให้มองไม่เห็นเกาะ แม้จะเป็นเกาะที่อยู่กันในใกล้ๆ ที่เดิมสามารถมองเห็นได้จากฝั่ง เช่น เกาะลิบง รวมทั้งบ้านมดตะนอย ซึ่งอยู่คนละฝั่งกับท่าเรือหาดยาว ก็มองเห็นแค่เลือนราง เพราะถูกปกคลุมไปด้วยหมอกควันจนขาวโพลนไปทั้งทะเล หรือแม้แต่เกาะมุกด์ ซึ่งปกติจะมองเห็นจากบ้านหาดยาว ก็ถูกหมอกควันปกคลุมจนมองไม่เห็นเช่นกัน

ดังนั้น จึงทำให้เรือประมงชายฝั่งจำนวนมาก ต้องหยุดออกหาปลาในบริเวณห่างไกลจากฝั่ง ซึ่งเป็นพื้นที่ปกติ เพราะกลัวหลงทาง เนื่องจากเรือประมงชายฝั่งไม่มีเข็มทิศ หรือไม่มี GPS เป็นเครื่องนำทาง และในอดีตเมื่อถูกหมอกควันปกคลุมหนา ทำให้ชาวประมงชายฝั่งต้องประสบกับปัญหาหลงทางมาแล้วหลายราย จึงไม่กล้าออกจากฝั่ง หรือบางรายก็นำเรือออกมาจับสัตว์ในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งมากที่สุดหน้าหมู่บ้าน แต่สำหรับเรือโดยสารข้ามฟากยังสามารถวิ่งได้ตามปกติ แม้ทัศนวิสัยการมองเห็นจะลดลง แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เพราะกลัวจะออกนอกร่องน้ำ และหลงทาง

นายอะสัน แก้วทอง ชาวบ้านหาดยาว กล่าวว่า ชาวบ้านเดือดร้อนมาประมาณ 5-6 วันแล้ว ที่หมอกควันเข้ามาปกคลุมพื้นที่ โดยเฉพาะในทะเล ทำให้ประชาชนเดือดร้อนทั้งปัญหาสุขภาพ เนื่องจากหายใจแสบคอ ไอ เจ็บคอ ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ส่วนคนเป็นโรคภูมิแพ้ก็หายใจไม่สะดวก และขณะนี้กระทบหนักกับเรือประมงขนาดเล็กที่ออกเรือไปทำประมงในระยะไกลเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะหมอกควันปกคลุมหนาแน่นจนมองไม่เห็นเกาะในระยะไกล จนตอนนี้เรือจำนวนมากต้องจอดไม่กล้าออกไปทำประมง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทย เรียกร้องไปทางการอินโดนีเซีย ให้เร่งแก้ปัญหาหมอกควัน เพราะทำให้เดือดร้อนทุกปี

ด้าน นายวิโรจน์ เบ็ญหมูด ชาวบ้านหาดยาว ก็กล่าวเช่นกันว่า เรือประมงขนาดเล็กได้รับผลกระทบออกไปจับสัตว์น้ำในพื้นที่ห่างไกลเหมือนกับที่เคยไปไม่ได้  เพราะเสี่ยงหลงทางมองไม่เห็นเกาะ ซึ่งเคยเกิดเหตุมาแล้วหลายครั้งที่ถูกหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซีย เข้ามาปกคลุม ส่วนเรือโดยสารข้ามฟากระหว่างท่าเรือหาดยาว-เกาะลิบง แม้จะยังสามารถวิ่งรับส่งผู้โดยสารได้ เนื่องจากอยู่ระยะใกล้ ซึ่งปกติจะใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเท่านั้น แต่ขณะนี้ต้องขับประมาณ 40 นาที เพราะต้องระมัดระวังหวั่นออกนอกร่องน้ำ หรือหากรุนแรงมากกว่าก็อาจต้องหยุดให้บริการ เพราะกลัวหลงทาง