วันที่ 21 กันยายน 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านรวมไทย ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มหนึ่งได้เดินทางมายัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อ.เมือง จ.ประจวบฯ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน และขอให้ตรวจสอบการทำงานของผู้นำหมู่บ้าน กรณีนำที่ดินส่วนกลางของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่ของโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) มาจัดสรรให้ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งว่า มีความโปร่งใสหรือมีอำนาจในการจัดการที่ดินดังกล่าวหรือไม่

โดยกลุ่มชาวบ้านดังกล่าว นำโดยนายนพพร หมวกเมือง ชาวบ้านรวมไทย ได้นำเอกสารและข้อมูลการกระทำของผู้นำหมู่บ้าน รวมทั้งเอกสารประกอบจากหน่วยงานภาครัฐว่าการกระทำดังกล่าวมีขึ้นจริง ซึ่งทางสำนักงาน ปปช. ประจวบฯ ได้ส่งตัวแทนเข้ารับหนังสือ พร้อมให้คำยืนยันว่า ทาง ปปช.จะทำการตรวจสอบการกระทำของผู้นำคนดังกล่าวว่า มีความผิดจริงหรือไม่ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ทางด้านนายนพพร แกนนำชาวบ้านที่ยื่นหนังสือ ให้ข้อมูลว่า ตนและชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เห็นว่าทางผู้นำหมู่บ้าน มีการนำที่ดินส่วนกลางไปจัดสรรให้กับชาวบ้านที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์การจัดสรร อีกทั้งไม่มีการประกาศให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ได้ทราบ มีรู้กันเพียงคณะกรรมการหมู่บ้านเพียงไม่กี่คน นอกจากนี้ เมื่อพวกตนสืบค้นข้อมูลการจัดสรรที่ทำกิน ในพื้นที่ของ คทช.นั้น ทางผู้นำหมู่บ้านไม่มีอำนาจทำได้เองโดยพละการ นอกจากนี้ ผู้นำหมู่บ้าน ยังเคยทำในลักษณะนี้ครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อ ปี 2563 ซึ่งพวกตนก็คัดค้านไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ซึ่งในครั้งนั้น ก็มีคำสั่งให้ระงับการกระทำของผู้นำไป จนครั้งนี้ เมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา ทางผู้นำได้มีการจัดสรรที่ดินอีกครั้ง โดยมีการทำหนังสือขออนุญาตไปทางสำนักงานที่ดินจังหวัดประจวบฯ และทาง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.ประจวบฯ (ทสจ.ประจวบฯ) ทางหน่วยงานก็ยังมิได้ตอบรับหรืออนุญาตใดๆ แต่ทางผู้นำได้ให้ผู้ที่มีรายชื่อได้รับการจัดสรร เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ โดยมีการปลูกบ้านถาวร 1 ราย และเข้าปลูกพืชผลจำนวนหลายราย ตนและพวกจึงมายื่นหนังสือคัดค้านต่อศูนย์ดำรงธรรม รวมถึง ทสจ.ประจวบฯ และสำนักงานที่ดินจังหวัดอีกครั้ง เพื่อขอให้ระงับการกระทำดังกล่าว แต่เวลาล่วงเลยไปกว่า 150 วัน ยังไม่มีความคืบหน้า ยังมีชาวบ้านที่เข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางที่มีปัญหาอยู่ อย่างต่อเนื่อง ในวันนี้จึงมายื่นหนังสือ พร้อมหลักฐานต่างๆ ให้กับทาง ปปช.ให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้นำหมู่บ้านดังกล่าว