วันนี้ ( 19 ส.ค.65 ) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ว่าได้รับทราบถึงสภาวะโดยรวม ทั้งเรื่องการแพร่ระบาด การเตรียมการ มาตรการรองรับต่างๆ ในทุกระดับของสถานการณ์ ได้เน้นย้ำการทำให้ประชาชนไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้มากที่สุด โดยเฉพาะกลุ่ม 608 หลังพบว่าสถิติมีหลายคนไม่อยากฉีดวัคซีน เพราะคิดว่ามีความปลอดภัยแล้ว แต่ขณะนี้ยังมีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อยู่จากเชื้อกลายพันธุ์ จึงอยากให้ทุกคนให้ความสำคัญในเรื่องนี้

ขณะเดียวกันมีความก้าวหน้าของวัคซีนที่ไทยผลิตเอง ซึ่งทดลองในระยะที่ 3 แล้ว ขอให้ทุกคนไปฉีดเข็มกระตุ้นและปฏิบัติตัวตามมาตรการ Universal Prevention หรือการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล

นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับเป็นห่วงเรื่องการท่องเที่ยว รวมถึงการเปิดสถานประกอบการ ทั้งศูนย์การค้า ร้านอาคารที่มีมากขึ้น สร้างรายได้ให้ประเทศ ทำให้ทุกคนได้เข้าถึงรายได้ที่มากขึ้น หากทุกคนช่วยกันก็จะทำให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พร้อมยืนยัน ยังสามารถดูแลสถานการณ์ได้เมื่อเปรียบเทียบกับหลายๆ ประเทศ ดีใจที่คนส่วนใหญ่ก็ยังใช้หน้ากากอนามัยอยู่ ขอให้ระมัดระวังตัวเองจากการติดเชื้อและหมั่นตรวจการตรวจ ATK

ส่วนการพิจารณายกเลิก การใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ พ.ร.ก.ฉุกเฉินนั้น ยังอยู่ในขั้นการพิจารณา หากสถานการณ์ลดระดับลง ก็พร้อมที่จะลดให้ ยืนยันว่า การมี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้มุ่งหวังใช้เพื่อประเด็นอื่นๆ แต่เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในเรื่องของโควิด-19