"องคมนตรี" เปิดงาน 4 ทศวรรษแห่งการพัฒนาที่ จ.นราธิวาส
18 ส.ค. 2565, 22:26
วันที่ 18 ส.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.40 น. พลอากาศเอกชลิต พุกผาสุก องคมนตรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมบริหารโครงการศูนย์ศึกษาพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นประธานเปิดงาน ชมศูนย์ศึกษา พัฒนาความรู้ ดูนิทรรศการ ครั้งที่ 23 ประจำปี 2565 ภายใต้ชื่องาน 4 ทศวรรษ แห่งการพัฒนา ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยความร่วมมือสำนักคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระหว่างวันที่ 18 ถึง 22 สิงหาคม 2565 เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่มีพระราชปณิธานในการสืบสานรักษาต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และงานพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
โดยองคมนตรีได้มอบรางวัลและเกียรติบัตรแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดเกษตรกรต้นแบบ จากพื้นที่ขยายผลของศูนย์ จำนวน 3 รางวัล คือ รางวัลชนะเลิศ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ก่อนที่องคมนตรีจะตัดริบบิ้นเปิดงาน นิทรรศการ 4 ทศวรรษ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง ซึ่งเป็นพระราชกรณียกิจ 4 ทศวรรษ สายธารแห่งกาลเวลา ปวงประชาเป็นสุข
ซึ่งทศวรรษที่ 1 คือ การจัดแสดงการศึกษาคันคว้าวิจัย เพื่อหาต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่พรุ ที่มีการจัดแสดงสภาพพื้นพรุในอดีต แนวพระราชดำริในการจัดตั้งศูนย์ และแนวทางในการดำเนินการศึกษา ทดลองวิจัยทางด้านดิน น้ำ ป่าไม้ ทศวรรษที่ 2 คือ การจัดแสดงการเผยแพร่องค์ความรู้สู่การพัฒนา การแสดงผลการศึกษาทดลองวิจัย และแนวทางในการพัฒนาพื้นพรุ จนประสบความสำเร็จเป็นพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต ไว้เป็นต้นแบบให้ผู้สนใจมาศึกษาดูงาน และนำไปถ่ายทอดให้แก่ราษฎรในพื้นที่และประชาชนทั่วไป ทศวรรษที่ 3 คือ การจัดแสดงการขยายผลสู่การพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนในพื้นที่เป้าหมาย เป็นทศวรรษแห่งการนำผลการศึกษา ทดลอง วิจัย ไปขยายผลสู่พื้นที่เกษตรกร ทั้งในพื้นที่หมู่บ้านรอบศูนย์ พื้นที่ศูนย์สาขา และพื้นที่ที่มีพระราชดำริให้ดำเนินการ และทศวรรษที่ 4 คือ การต่อยอดองค์ความรู้สู่การพัฒนา ปวงประชาเป็นสุข ซึ่งมีการจัดแสดงการดำเนินงานโครงการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ ซึ่งเน้นการพัฒนาในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงกับพื้นที่ และความต้องการของเกษตรกร การนำเทคโนโลยีมาจัดทำฐานข้อมูล การอบรมและถ่ายทอดองค์ความรู้ของศูนย์ฯ ตามแนวพระราชดำริ
นอกจากนี้แล้วองคมตรี ได้เดินชมการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร ที่ราษฎรได้นำความรู้จากการศึกษาจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ไปประกอบอาชีพจนสามารถเลี้ยงตนเองและครอบครัว ส่วนที่เหลือสามารถนำมาออกจำหน่ายยังท้องตลาดได้
ในช่วงบ่ายองคมนตรี ได้รถรางของศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทอง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางไปยังสวน 50 ปี ครองราชย์ เพื่อปลูกต้นไม้ไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่จะเดินทางไปยังงานป่าไม้ เพื่อเยี่ยมชมการเลี้ยงชันโรง 4 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์อิตาม่า สายพันธุ์ขนเงิน สายพันธุ์ถ้วยดำและสายพันธุ์จิ๋วดุ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์นาน 4 ถึง 6 เดือน จะให้น้ำหวาน ซึ่งออกรถชาดหวานอมเปรี้ยว ปัจจุบันมีราษฎรเข้ามาศึกษาจนสามารถนำไปประกอบอาชีพ เป็นเศรษฐกิจชุมชนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยองคมนตรีได้ถือโอกาสชิมรสชาดของน้ำชันโรงจากรังแบบสดๆในครั้งนี้ด้วย