"หนุ่มร้านจิวเวลรี่" เปิดบ้านเป็นแหล่งเรียนรู้ จัดกิจกรรมอาชาบำบัดให้กับเด็กพิเศษ ได้ผลจริง
18 ก.ย. 2562, 15:39
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายณรงค์ ควรสถาวรนิจ อายุ 46 ปี เจ้าของกิจการร้านขายจิวเวลรี่มากกว่า 10 สาขา และเป็นเจ้าของบ้านคอกม้าราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 99/5 หมู่ 5 ต.ดอนตะโก อ.เมือง จ.ราชบุรี ได้เปิดบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้ในกิจกรรมอาชาบำบัด ให้กับเด็กออทิสติกและเด็กสมาธิสั้น โดยมีประสบการณ์มาจากที่ลูกชายของตัวเองนั้นเป็นเด็กสมาธิสั้น จึงได้ลองไปศึกษาหาความรู้ในการที่จะช่วยให้ลูกชายนั้นได้สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ หากพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว จนมาทดลองใช้การขี่ม้ามารักษาลูก จนถึงตอนนี้ลูกชายสามารถเรียนจบปริญญาตรี ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างปกติ จึงได้นำประสบการณ์เหล่านั้นออกมาแบ่งปันให้กับผู้ปกครองที่มีลูกเป็นออทิสติกและสมาธิสั้น และได้มีการตั้งเป็นชมรมชื่อว่าชมรมร้อยดวงใจใช้อาชาพัฒนาคนพิเศษราชบุรี โดยมี พ.ต.อ.วชิรพล อัมราพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี เป็นประธานเนื่องจากมีลูกที่เป็นออทิสติกและนำมาเข้าร่วมในกิจกรรมอาชาบำบัดแล้วได้ผล
ด้าน นายณรงค์ บอกว่า คอกม้าของผมเกิดมาจากที่ลูกชายคนโตเป็น LD เป็นสมาธิสั้น เราก็ใช้คอกม้าเป็นจุดเริ่มที่เราทำขึ้นมา ปรากฏว่า ทำไปแล้วน้องดีขึ้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้สามารถเข้ากับสังคมโดยรวมได้น้องสามารถเรียนได้ถึงระดับปริญญาตรีและก็สามารถขับรถไปไหนมาไหนได้ตลอดก็ถือว่าดีขึ้น ผมก็จุดประกายขึ้นมาว่าเมื่อลูกเราดีขึ้นเด็กคนอื่นก็น่าจะดีขึ้นบ้าง ซึ่งการขี่ม้าจะช่วยในเรื่อง คือ อันดับแรกเลยเรื่องกายภาพ เรื่องสมาธิ เวลาอยู่บนหลังม้าสัญชาตญาณของน้องเวลาขึ้นไปน้องจะต้องระวังตัวเหมือนว่าทำยังไงก็ได้ที่ไม่ให้ตัวเองตกให้ตัวเองอยู่บนนั้นเหมือนกับเป็นการเรียกสมาธิของน้องมาเองอัตโนมัติน้องเป็นตัวจุดประกายของผมที่ทำขึ้นมาน้องเป็นคนแรกที่พัฒนาขึ้นมาดีมากก็เลยติดต่อเรื่องโรงเรียนเข้ามาดูงานเพื่อเราจะสานต่อตรงนี้ถ้าเด็กพิเศษเราเปิดให้ใช้ฟรีตามวันเวลาที่เรากำหนดไว้ เหมือนกับว่าเด็กพิเศษที่เข้ามาใช้ฟรี ส่วนเรื่องของเวลาในการบำบัดก็ต้องแล้วแต่เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกันเด็กบางคนอาจจะขึ้นได้แปบเดียว บางคนอาจจะไม่สามารถขึ้นได้เลยตั้งแต่ครั้งแรก คือต้องใช้เวลาทำค่อย ๆ ทำไปเรื่อย ๆ จนน้องดีขึ้นเรื่อย ๆ แล้วเราก็จะใส่อะไรเข้าไปเพื่อให้น้องมีการพัฒนาทั้งในเรื่องร่างกายทั้งเรื่องสติปัญญาเรื่องสมาธิของผมเป็นฟาร์มปิดด้วยจะไม่ได้รับม้าข้างนอกเข้ามาผสม ก็จะไม่มีเรื่องโรคเรื่องอะไรที่เข้ามาแบบเป็นโรคติดต่อหรืออะไรพวกนี้ไม่มี ผู้ปกครองที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ บ้านคอกม้าราชบุรี หรือไม่ก็ติดต่อผมโดยตรง เบอร์ 0854266564
ส่วน พ.ต.อ.วชิรพล อัมราพิทักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี บอกว่า มีประสบการณ์ตรงจากผมเอง ผมมีบุตรสาวเป็นเด็กพิเศษ ตอนนี้อายุ 23 ปีแล้ว แต่เนื่องจากเราพัฒนามาในเรื่องต่างๆ หลายๆ ด้าน และบังเอิญได้รู้จักกับเจ้าของสโมสรขี่ม้าบ้านคอกม้าราชบุรี ให้โอกาสเราในการที่จะเอาลูกมาฝึกฝน เพื่อจะพัฒนาลูกให้ใกล้เคียงกับเด็กปกติ บังเอิญไปปรึกษา ผอ.กัญยา ซึ่งเป็นผู้อำนวยการของโรงเรียนการศึกษาพิเศษในจังหวัดราชบุรี ท่านมีเด็กที่ดูแลอยู่เป็นร้อยๆ คน เป็นเด็กที่ด้อยโอกาสแต่ว่าต้องการคนที่มาช่วยพัฒนา ผมก็เลยเห็นความสำคัญตรงนี้ และอีกอย่างเราก็มีศักยภาพที่จะพอดูแลเรื่องราวเหล่านี้ได้ ก็เลยได้รวบรวมผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กพิเศษ ก็จัดตั้งชมรมนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะใช้ม้ามาช่วยพัฒนาเด็กพวกนี้เพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้น ตอนนี้ผมรับสมัครไปด้วย ดำเนินการไปด้วย เรารับไม่จำกัด แต่ที่สำคัญคือผู้ที่จะมาร่วมในชมรมจะต้องเป็นผู้ปกรองที่ดูแลเด็กพิเศษ คำว่าเด็กพิเศษหมายความว่าจะต้องมีบัตรประจำตัวผู้พิการ แล้วก็ในบัตรประจำตัวผู้พิการจะระบุผู้ดูแล ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้นที่บุตรสาวผมมีบัตร ผมก็เป็นผู้ดูแลเขา เราก็จะมารวมกลุ่มกัน รับสมัครได้ตลอดเวลา ใครที่มีความคิดเห็นว่าสามารถที่จะเป็นกำลังสำคัญที่จะรวบรวมในเรื่องของความรู้ต่างๆ การบำบัดต่างๆ หรือในเรื่องการรวมกลุ่มกันเพื่อให้ภาคเอกชน บริษัทห้างร้าน หรือภาครัฐได้เห็นความสำคัญในจังหวัดราชบุรี เท่าที่ดูในจังหวัดราชบุรียังไม่มีการใช้อาชาบำบัดเลย ผมนำบุตรสาวเข้ามาฝึกขี่ม้าในเวลา 3 เดือน แต่ไม่ได้ฝึกทุกวัน ฝึกแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แต่อาจจะเป็นด้วยความสามารถคุณณรงค์ที่เป็นเจ้าของสโมสรขี่ม้า เขาทุ่มเท จริงใจกับการฝึกหัดตรงนี้มากทำให้ลูกผมได้พัฒนาขึ้น สามารถบังคับม้า สามารถตัดสินใจ สามารถจะใช้กล้ามเนื้อหรือควบคุมอารมณ์และสมาธิในการขี่ม้าได้เป็นอย่างดี ตรงนี้เป็นความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ผมได้รับโดยตรง สิ่งนี้เองที่ผลักดันให้ผมพอมีศักยภาพ ก็อยากจะแบ่งปันให้กับสังคมหรือกับเพื่อนๆ ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเป็นเด็กพิเศษให้เขาได้รับโอกาส ก็เลยจัดตั้งชมรมนี้ขึ้นมา