เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 20 มิ.ย.65 ร.ต.อ.นภัทร  ดวงสถิตย์  พนักงานสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ริมถนนสายดอนทราย-บ้านแก่งกะทั่ง หมู่ 4 ตำบลทุ่งระยะ อ.สวี จงชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ถิรเดช  แข็งแรง  รอง ผกก.สืบสวน(สส.)สภ.สวี ร.ต.อ.สมคิด  จันนินวงค์  ร.ต.อ.ปัญญา  ผลศิริปฐม  รองสารวัตรสืบสวน(รอง สว.สส.) ร.ต.ท.ถวัลย์  จันทร์สิงขรณ์  รอง สว.(ป.) ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยอาสากู้ชีพกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตสวี รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบศพนายกิจตะวัน  คงทอง อายุ 51 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ริมรั้วนอกบ้านของน้องชาย และใกล้กับบ้านตนเอง โดยมีรอยเลือดติดแห้งกรังบนผนังรั้วบ้านจำนวนหนึ่ง พลิกศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงินแถบแดงเพียงตัวเดียว มีรอยถูกของมีคมฟันบริเวณด้านหลังเหนือสะเอวยาวประมาณ 10  เซนติเมตร 1 แผล คิ้วขวา 1 แผล ศีรษะ 1 แผล และใต้ราวนมซ้ายมีรอยถูกฟันเป็นแผลลึกฉกรรจ์อีก 1 แผล

ในที่เกิดเกิดเหตุพบท่อนสายไฟฟ้าแรงสูงหุ้มฉนวนสีดำยาวประมาณ 50 เซนติเมตร 1 อัน และมีงอด้ามสั้น 1 เล่ม วางพิงผนังรั้วบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บรอยนิ้วมือ ก่อนรวบรวมไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี

ส่วนผู้ก่อเหตุมี 2 คน คือนาย ศักดิ์สิทธิ์  เอี้ยงมี หรือโตโต้ อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของผู้ตาย หรือผู้ตายมีศักดิ์เป็นลุง  หลังก่อเหตุไม่ได้หลบหนีไปไหน ได้นั่งอยู่บริเวณที่เกิดเหตุโดยมีชาวบ้านได้ควบคุมตัวเอาไว้ส่งให้ตำรวจ ส่วนอีกคนคือนาย พยงค์  เม้งหิ้นติ๋ว  หรือหีต  อายุ 48 ปี  ซึ่งเป็นน้องเขยผู้ตาย มีบ้านติดกับบ้านนายกิจตะวัน ผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขับจยย.พ่วงข้างกลับบ้านรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบ้านน้องชายผู้ตาย  สามารถบันทึกคลิปภาพไว้ได้ขณะเกิดเหตุอยู่บนถนนบริเวณหน้าบ้านและริมรั้วข้างบ้านจะเห็นว่านายพยงค์ ขับรถมาจอดริมถนนหลังจากนั้นนายกิจตะวันได้เดินตามมาและมีปากเสียทะเลาะกันก่อนจะเกิดกอดวัดฟัดเหวี่ยงแย่งมีงอและท่อนสายไฟฟ้า หลังจากนั้นนายพยงค์ตะโกนเรียกนาย ศักดิ์สิทธิ์ หรือโตโต้วิ่งเข้ามาสมทบกระโดดถีบนายกิจตะวัน ผู้ตาย จนเกิดยื้อแย่งมีกันขึ้นโดยมีนายพยงค์ถอยฉากออกมาใช้ท่อนสายไฟฟ้าฟาดไปที่ผู้ตายหลายครั้ง ต่อมานายกแอ๊ด  หรือนายชาติชาย  บุญมี  นายก อบต.ทุ่งระยะ  ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์เข้าห้ามปรามเรื่องจึงยุติ

จากการสอบสวนทราบว่าทั้ง 3 คนเป็นญาติกันและมีบ้านติดกันมีปากเสียงทะเลาะกันอยู่เป็นประจำนานนับปี ก่อนเกิดเหตุนายพยงค์น้องเขยขับรถจยย.พ่วงข้างผ่านหน้าบ้านผู้ตายโดยอ้างว่าไปหานกขุนทองที่หลุดออกจากกรง ผู้ตายตะโกนเรียกให้หยุดและเดินปรี่ไปหาจนเกิดทะเลาะลงไม้ลงมือกันอีก

ส่วนนายกแอ๊ด  หรือนายชาติชาย  บุญมี  นายก อบต.ทุ่งระยะ  เล่าว่า ขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ ทั้ง 3 คนกำลังยื้อแย่งมีดและท่อนสายไฟฟ้าที่ใช้เป็นอาวุธ จึงพยายามเข้าห้ามปราม แต่เห็นท่าไม่ดี  จึงวิ่งกลับไปที่รถนำปืนพกออกมาถือไว้ตะโกนบอกให้หยุดทั้ง 3 คนจึงยอม แต่ปรากฏว่านายกิจตะวัน ล้มฟุบหมดสติไป แต่ขณะนั้นไม่เห็นว่าใครเป็นผู้ใช้มีดฟัน  นายกอบต.เล่าอีกว่าถ้าตนมาเร็วกว่านี้สัก 2 นาทีคงไม่มีคนตายเพราะตนอาจจะห้ามปรามไว้ได้ทัน

ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งหลานและน้องเขยผู้ตายก่อนนำตัวสอบปากคำเพิ่มเติมและบันทึกจับกุมที่ห้องสืบสวนสภ.สวี โดยนายศักดิ์สิทธิ์ หรือโตโต้ เบื้องต้นรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือใช้มีดฟันผู้เป็นลุง  ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 2 คนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป