จับกุม ! "หนุ่มวัย32ปี" รับจ้างรับส่งยาบ้าของกลาง 88,000 เม็ด สารภาพทำล้างหนี้ค่ายาเสพติด
7 มิ.ย. 2565, 10:20
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธวัชชัย สัตยพัฒน์ รอง ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผกก.สืบสวน ภ.จว.มหาสารคาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม หรือนายเบล์ว อายุ 32 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 88,000 เม็ด โทรศัพท์ 1 เครื่อง อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 20 จำนวน 2 นัด
พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม ได้ขอหมายศาลจังหวัดมหาสารคามเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในตำบลเกิ้ง ซึ่งเป็นบ้านของนายเบล์ว ปรากฏพบยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด อาวุธปืน และกระสุนปืนลูกซอง 2 นัด ซุกซ่อนอยู่ในรถยนต์ฮอนด้าแจ๊ส ซึ่งเป็นของแม่ยายนายเบล์ว
ต่อมาได้ขยายผลเข้าตรวจค้นบ้านแม่ยาย ตั้งอยู่ถนนผดุงวิถี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายส้มตำและอาหารอีสาน พบยาบ้าอีกจำนวน 78,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน โดยผู้ต้องหายอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตน ซึ่งทำหน้าที่เป็นนักบิน ไปรับยาบ้า และนำยาบ้าไปวางตามจุดต่าง ๆ ได้ค่าจ้างมัดละ 1,000 บาท เคยทำมาแล้ว 4 ครั้ง แต่ละครั้งจะได้เงินประมาณ 50,000 บาท
โดยนายเบล์วเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อปี 2562 พื้นที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน ระหว่างที่อยู่ในเรือนจำก็รู้จัก นายกอล์ฟ ชาวลาว และเมื่อออกมาจากเรือนจำ ก็ได้ตั้งกลุ่มไลน์เพื่อใช้เป็นช่องทางสื่อสารในการลำเลียงยาเสพติด มีการว่าจ้างให้ไปวางตามจุดต่าง ๆ ใน 3 จังหวัด คือ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด ส่วนเงินค่าจ้างที่ได้ ก็จะนำไปใช้หนี้ที่เคยติดค้างไว้ในเรื่องของยาเสพติด ตั้งแต่ ปี 62 เป็นเงินประมาณ 200,000 บาท ส่วนหนึ่งก็เอามาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มีไว้ในความครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป