เมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 1 มิ.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่บ้านโป่งเกตุ จำนวนกว่า 10 คน รวมตัวช่วยเหลือทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ ปิดล้อมสกัดจับรถกระบะลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ได้รถจำนวน 5 คัน พร้อมแรงงานต่างด้าวชาย-หญิง รวมจำนวน 70 คน จากนั้นจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองตำรวจ สภ.คลองวาฬ ตชด 146 และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจวบคีรีขันธ์ ร่วมจับกุมพร้อมตรวจสอบทำประวัติเส้นทางการหลบหนี ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยที่เกิดเหตุได้ตรวจยึดรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อ Mitsubishi สีขาวลักษณะตู้ทึบ 1 คัน รถยนต์กระบะยี่ห้อ Isuzu 4 ประตู สีขาว 1 คัน สีบรอนซ์-เทา ตอนครึ่ง 1 คัน และรถยนต์กระบะยี่ห้อ Toyota ตอนครึ่ง สีดำ 2 คัน พร้อมคนขับรถนำพาเป็นคนไทย 1 คน(คนไทยหนีไปได้ 1 คัน) คนขับรถชาวพม่า 4 คน โดยมีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองชาย-หญิง จำนวน 70 คน แบ่งเป็นชาย 52 คนหญิง 15 คน ผู้ติดตามเป็นเด็กชาย 2 คนและเด็กหญิง 1 คน ซึ่งมากับมารดา ได้ที่บริเวณทางสามแยก ใกล้กับโรงเรียนเศรษฐพานิชวิทยา หมู่ 7 บ้านโป่งเกตุ ตำบลห้วยทราย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นแรงงานต่างด้าว ที่พูดภาษาไทยได้ ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้เดินทางมาจาก จ.ทวาย จ.มะริด จ.พะโค ฯลฯ จากนั้นมาพักคอยคนนำทางเดินเท้าข้ามแดนที่บริเวณบ้านมูด่องฝั่งประเทศเมียนมาร์ จากนั้น ได้เดินเท้าข้ามแดนมาตามช่องทางธรรมชาติมารอนายหน้าฝั่งไทยมารับ โดยจะเสียค่านำพาคนละ 20,000-25,000 บาท ซึ่งจุดหมายปลายทางอยู่ที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร และประเทศมาเลเซีย ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดทำประวัติพร้อมตรวจอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้น ก่อนตรวจยึดรถกระบะ Mitsubishi 1 คัน และกระบะ Isuzu 2 คัน ไปจอดเก็บไว้ที่ด่านจุดตรวจประชารัฐ ม.6 ตำบลคลองวาฬ ส่วนรถยนต์กระบะตอนครึ่งยี่ห้อ Toyota สีดำอีก 2 คัน พร้อมคนขับชาวเมียนมาจำนวน 2 คน ซึ่งกันชนหน้ารถมีการติดตราสัญลักษณ์สำนักงานศาลยุติธรรม ได้ให้การยอมรับสารภาพว่ากำลังเข้ามารับแรงงานต่างด้าวด้วยเช่นกันแต่ถูกจับเสียก่อน เจ้าหนี้ตำรวจ สภ.คลองวาฬ จึงได้ควบคุมตัวคนขับพร้อมอายัดรถไปตรวจสอบรายละเอียดที่โรงพัก จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งหมดไปพักไว้ที่ศูนย์พักคอยเพื่อกักกันโรค ที่บริเวณหมู่ 5 บ้านห้วยใหญ่ ตำบลคลองวาฬ ในระหว่างรอดำเนินคดีตามกฎหมาย