เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



นอภ.เมืองประจวบฯ พา ชรบ.ยิงรถขนแรงงานชาวเมียนมา เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 3 ราย เข้ามอบตัวตำรวจแล้ว


9 พ.ค. 2565, 08:23



นอภ.เมืองประจวบฯ พา ชรบ.ยิงรถขนแรงงานชาวเมียนมา เสียชีวิต 1 บาดเจ็บ 3 ราย เข้ามอบตัวตำรวจแล้ว




จากกรณี ชายชาวพม่า นายโจเยออง อายุ 30 ปี นั่งท้ายกระบะพร้อมชาวเมียนมาที่ลักลอบเข้าเมืองจำนวน 14 ราย ชาย 7 ราย หญิง 7 ราย ถูกอาวุธลูกซองยิงเข้าท้ายกระบะเข้าที่ลำตัวและศีรษะเป็นเหตุถึงแก่ชีวิต 1 ราย และเพื่อนชาวเมียนมาได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย บริเวณถนนสายบ้านหนองแก - หนองนุ่น หมู่ 8 ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบฯ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อเช้าวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา คืบหน้าล่าสุดวันนี้นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้นำชรบ.ที่ใช้อาวุธปืนยิงเข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมด้วยชุดเจ้าหน้าที่ ชรบ.ที่เข้าเวรในช่วงเวลาเกิดเหตุมาให้ปากคำพนักงานสอบสวน แล้ว ที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์กับ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์

โดยล่าสุดวันนี้ 8 พฤษภาคม 2565 เวลา 14.30 น. ที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.อ. พนิช อ่วมสอาด รอง.ผบก.ภ.จว. ประจวบคีรีขันธ์ , พ.ต.อ.เจริญ ชนประเสริฐ ผกก.สอบสวน ตำรวจภูธรประจวบฯ ,พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ ธรรมรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธุ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก ร่วมกันแถลงข่าว กรณีผู้ต้องหา นายบุญเพ็ง แก้วประสิทธิ์ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 6 ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็น ชรบ.หมู่ 6 บ้านทุ่งเคล็ด ซึ่งใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าใส่รถยนต์ชาวเมียนมาขณะกำลังขับแหกด่านพุ่งชนเจ้าหน้าที่เวลาเรียกขอตรวจค้นบริเวณจุดตรวจช่องสิบศพจนมีผู้เสียชีวิต โดยได้นำอาวุธปืน 1. อาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด 12 บรรจุ 8 นัด ยี่ห้อ Khan arm A-tac หมายเลขประจำปืน 17/M18425 จำนวน 1 กระบอก 2.อาวุธปืนลูกซองยาว ขนาด 12 ยี่ห้อเรมิงตัน 3.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 3 นัด 4.เสื้อกั๊ก ชุด ชรบ. สีน้ำเงิน หน้าอกเสื้อปักชื่อ บุญเพ็ง แก้วประเสริฐ จำนวน 1 ตัว 5.หมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ปักตัวอักษรสีทองกรมการปกครอง จำนวน 1 ใบและอุปกรณ์อื่นๆ ในวันเกิดเหตุมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนประจวบฯ ภายหลังจากการร่วมสอบปากคำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติงานในวันเกิดเหตุทั้งหมด



พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวว่า รายละเอียดต่างๆ เจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐานและพยานแวดล้อมเพื่อสรุปคดีให้รัดกุม ส่วนจะมีผู้ก่อเหตุมากกว่านี้ หรือพฤติการณ์การก่อเหตุอย่างไร อยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งให้พิสูจน์หลักฐานภาค 7 ร่วมกับพิสูจน์หลักฐานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตรวจสอบวิถีกระสุนบนรถกระบะโตโยต้าวีโก้คันเกิดเหตุ พบว่ามีรอยกระสุนเข้าที่ยางล้อรถยนต์หลังขวาจำนวน 2 จุด และที่กระจกหลังรถ 2 จุด และที่ท้ายฝาปิดกระบะอีกหลายจุด และเตรียมนำรถไปตรวจพิสูจน์ที่กองพิสูจน์หลักฐานภาค 7 อย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ได้กำชับให้พนักงานสอบสวนไปดูจุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อจำลองพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้นทั้งพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งในเบื้องต้นวันนี้ทางพนักงานสอบสวนก็มีการสอบแรงงานเมียนมาที่มากับรถยนต์คันเกิดเหตุ ส่วนในรายละเอียดต่างๆไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้เนื่องจาเกรงว่าจะเสียหายต่อรูปคดี โดยจากการสอบสวนนายบุญเพ็ง แก้วประสิทธิ์ เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่ากับตำรวจว่า ตนเป็นคนยิงปืนจริง แต่ยิงแค่เพียงนัดเดียว และเพื่อนที่มาด้วยก็ใช้อาวุธปืนลูกซองอีกกระบอกยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการขู่ ให้รถหยุดไม่ให้หลบหนี และไม่ทราบว่าจะมีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้ง 2 ข้อหา 1. ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ2.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


ทั้งนี้ ในส่วนของอาวุธปืนลูกซอง ซึ่งมี 2 กระบอกเป็นของ ชรบ.ที่ยิงเข้าไปที่รถยนต์กระบะ ส่วนอีกกระบอกเป็นของ ชรบ.ที่ยิงขึ้นฟ้า ที่นำมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ขณะเดียวกันตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการตรวจวิถีกระสุนที่รถยนต์กระบะอีกครั้ง โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ยังได้ทำการสอบสวน ชรบ.ที่เข้าเวนคืนวันเกิดเหตุ และแรงงานเมียนมาที่อยู่ในรถกระบะทั้งหมดอีกด้วย

ทางด้าน นายธนนท์ ธรรมรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ทางด้านเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ยังคงมีกำลังใจในการทำหน้าที่ ถึงแม้ต้องเสียสละเวลาและชีวิตส่วนตัว เพื่อดูแลความเรียบร้อยในชุมชน ป้องกันการลักลอบเข้าประเทศของชาวต่างด้าว ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย พร้อมกันนี้ ต่อไปในอนาคตจะเข้มงวดและสร้างความเข้าใจ ข้อกฎหมายในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อทำงานได้ตรงตามวัตถุประสงค์และมีประสิทธิภาพ ป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้นได้อีก






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.