วันที่ 13 ก.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านในอำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น ต้องถูกมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลมัญจาคีรี ตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ หลังจากชาวบ้านมีอาการท้องเสีย วินเวียนศีรษะ และมีอาการคันที่บริเวณลำคอ หลังจากชาวบ้านได้ซื้อกลอยเป็นส่วนผสมข้าวต้มมัด แล้วได้รับประทานจนมีชาวบ้านกว่า 20 ราย ต้องเดินทางมาที่โรงพยาบาลมัญจาคีรี เพื่อรักษาอาการ
นายไพรผล ชมพูโคตร อายุ 63 ปี ชาวบ้านขาม หมู่ 5 ตำบลสวนม่อน อำเภอมัญจาคีรี บอกว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 12 ก.ย. 62 ) ตนเองได้ไปซื้อกลอยที่มีการหั่นเป็นชิ้น มาจากตลาดสดมัญจาคีรีครึ่งกิโลกรัม จากนั้นก็นำมาผสมทำข้าวต้มมัด เพื่อที่จะนำไปถวายพระ ในวันบุญข้าวสากตามประเพณีบุญเดือน 10 ของชาวอีสาน เมื่อทำเสร็จได้รับประทานไป 1 อัน จากนั้นก็เริ่มมีอาการคลื่นไส้ คันที่ลำคอ พร้อมกับอาการท้องเสียง จากนั้นจึงได้รีบไปหาหมอ เพื่อรักษาอาการตนเองเชื่อว่า น่าจะเกิดจากกลอยที่นำไปผสมข้าวต้มมัด น่าจะมีการล้างไม่สะอาด ทำให้ยังมีพิษจากผลของกลอยตกค้างจำนวนมาก
ด้านนายแพทย์ชัยณรงค์ ศิลปษา แพทย์เวรโรงพยาบาลมัญจาคีรี กล่าวว่า กลอยถือว่าเป็นพืชอีชนิดหนึ่ง ที่มีพิษ การเกิดพิษเมื่อรับประทานหัวกลอยเข้าไป โดยที่ยังไม่ได้กำจัดสารพิษออกไปก่อน จะมีอาการใจสั่น วิงเวียน คันบริเวณลำคอ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก หน้าซีด ตาพร่า ชีพจรเบา รู้สึกหายใจอึดอัด และคล้ายกับจะเป็นลม อาจจะมีประสาทหลอน กล้ามเนื้อชักกระตุก ถ้ารับประทานเข้าไปมาก พิษจะกดระบบทางเดินหายใจ หายใจลำบาก และเสียชีวิตได้ เบื้องต้นได้ประสานไปยังอำเภอใกล้เคียง ให้มีการประชาสัมพันธ์อันตรายจากการับประทานกลอย ที่ไม่มีการล้างสารพิษออกจนหมด
ต้นกลอย ลักษณะลำต้นเป็นเถาว์ เจริญเลื้อยพันต้นไม้อื่น ลำต้นมีหนามเล็กๆกระจายอยู่ทั่ว มีขนสีขาวนุ่มๆอยู่ตามลำต้น เมื่อเจริญเต็มที่จะมีหัวอยู่ใต้ดิน หรือเรียกว่า หัวกลอย มีลักษณะกลมรีๆ มีรากเล็กๆอยู่รอบๆหัวกลอย เนื้อภายในหัวกลอย มี 2 ชนิด คือ เนื้อสีขาว เรียกกันว่า กลอยหัวเหนียว และ เนื้อสีครีมเรียกกันว่า กลอยไข่ หรือ กลอยเหลือง ส่วนที่เป็นพิษ คือเนื้อในทั้งหมดของส่วนที่เป็นหัวกลอย.