นายกฯ เร่งติดตามการพัฒนาความเชื่อมโยงระบบคมนาคม 4 มิติ เน้นใช้เทคโนโลยียกระดับโลจิสติกส์
21 มี.ค. 2565, 15:04
วันนี้(21 มี.ค. 65) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามนโยบายการพัฒนาความเชื่อมโยงระบบคมนาคมของไทยให้มีศักยภาพเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์ในอนาคต โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (ฮับ) โลจิสติกส์ทั้ง 4 มิติของอาเซียน ตามที่ได้กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561-2580) อาทิ พัฒนาระบบผ่านทางด่วน เร่งรัดก่อสร้างมอเตอร์เวย์ แผนเชื่อมต่อการเดินทางเข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน การขยายเชื่อมต่อสนามบิน เป็นต้น โดยความคืบหน้าล่าสุดในส่วนของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางใหญ่ - กาญจนบุรี (M81) ระยะทาง 96.41 กม. กรมทางหลวง เปิดเผยว่าปัจจุบันมีความก้าวหน้าก่อสร้างเสร็จแล้ว 72% คาดว่าโครงการงานก่อสร้างจะแล้วเสร็จ ภายในเดือน พ.ย. ปี 2566
สำหรับโครงการทางหลวงพิเศษดังกล่าว เป็นหนึ่งโครงการสำคัญมีความจำเป็นเร่งด่วน ที่รัฐบาลบรรจุในแผนมาตรการเร่งรัดการลงทุน Action Plan ของกระทรวงคมนาคม ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการคมนาคมขนส่งและโลจิสติกส์ให้เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว และเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตของประชาชน เมื่อการก่อสร้างเสร็จแล้ว จะช่วยให้การเดินทางจากกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปภาคตะวันตกของประเทศ สะดวก รวดเร็วมากขึ้น เป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการท่องเที่ยว ที่สำคัญจะช่วยให้การเดินทาง จาก อ.บางใหญ่-กาญจนบุรีใช้เวลาเพียง 48 นาที เมื่อเปรียบเทียบกับการเดินทางโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชม. 30 นาที
"รัฐบาลได้เดินหน้าผลักดันไทยให้เป็นฮับด้านโลจิสติกส์ของอาเซียน โดยที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันกระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าพัฒนาโครงการคมนาคมทั้ง 4 มิติ มาโดยตลอด อาทิ โครงการรถไฟทางคู่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งโครงที่เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะสร้างมูลค่าให้กับเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาล นอกจากนี้ยังมีโครงการแลนด์บริดจ์ ที่เมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มช่องทางการขนส่งสินค้าข้ามภูมิภาคได้สะดวก และช่วยเพิ่มมูลค่าด้านการขนส่งให้กับไทยอีกด้วย ซึ่งโครงการต่าง ๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะได้เห็นความคืบหน้าและผลสำเร็จในช่วง 1-3 ปีนี้" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว