สมาชิกฯ บุกโรงพักแจ้งความ หลังถูกสมาคมฌาปนกิจฯ เบี้ยวจ่ายเงินผีกว่า 300 ล้านบาท
3 มี.ค. 2565, 08:29
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ได้มีสมาชิกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศ นำโดย นางนุชนารถ ใยรักษ์ อายุ 34 ปี และ นางสุจิตรา สุธีร์ อายุ 50 ปี ได้นำเอาเอกหลักฐานที่ยังไม่ได้รับเงินสงเคราะห์ครอบครัว จากสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อให้ดำเนินคดีกับสมาคมฯ ที่ไม่ได้ทำการจ่ายเงินให้ครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ และเรียกร้องขอให้คืนเงินสงเคราะห์ศพล่วงหน้า เนื่องจากว่าญาติของสมาชิกที่เสียชีวิตไปแล้ว ยังไม่ได้รับเงินฌาปนกิจศพจำนวนมากโดยยอดเงินผู้เสียชีวิตที่ยังไม่ได้รับเงินรวมทั้งสิ้นประมาณ 300 กว่าล้านบาท ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางนุชนารถ ใยรักษ์ แกนนำกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ กล่าวว่า หลังจากที่พวกตนได้ไปชุมนุมที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 ที่ผ่านมาเพื่อร้องทุกข์ต่อ ผวจ.ศรีสะเกษ หลังจากนั้น สมาชิกของสมาคมที่ยังไม่ได้รับเงินได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัยแล้ว รวมจำนวนกว่า 70 คน พร้อมทั้งได้นำเอาเอกสารหลักฐานที่ยังไม่ได้รับเงินมามอบให้กับแกนนำของสมาชิกเพื่อจะได้รวบรวมนำเอาไปมอบให้กับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือต่อไป
นางดาว ผาสุกิจ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 11 บ้านเจียงวง ต.หนองห้าง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กล่าวว่า ตนและสามีได้สมัครเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจฯ มานานหลายปีแล้ว ต่อมาสามีของตนได้เสียชีวิตเมื่อปี 2563 ซึ่งตามหลักแล้ว ตนจะต้องได้รับเงินสงเคราะห์จำนวน 1,000,000 บาท แต่ว่าสมาคมฯได้มีการจ่ายเงินมาก่อนจำนวน 50,000 บาท ต่อมาสมาคมได้จ่ายเงินมาอีก 200,000 บาท และได้มีการหักเงินเอาไว้จำนวน 130,000 บาท ตนไม่รู้ว่าหักเงินอะไรเอาไว้บ้าง หรืออาจจะเป็นการส่งเงินไม่ถึง 15 ปี อะไรแบบนี้ และหักเงินคนที่เข้ามาแทน ต่อมาเวลาผ่านไปร่วม 2 ปี ตนได้เข้าไปที่สมาคมฯเพื่อขอรับเงินสงเคราะห์ส่วนที่ยังเหลืออยู่จำนวนประมาณ 590,000 บาท แต่ปรากฏว่า ทางสมาคมฯได้ผัดผ่อนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมจ่ายเงินโดยอ้างว่าเป็นช่วงโควิดคนเสียชีวิตเยอะมาก จากนั้น จนกระทั่งบัดนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับเงินส่วนที่เหลือแต่อย่างใด ทำให้ตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนมาก จึงได้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทุมพรพิสัย
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย ตั้งอยู่เลขที่ 139 หมู่ 4 ต.ตาเกษ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พบว่า มีเจ้าหน้าที่ของสมาคมยังคงมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และได้มีสมาชิกมาติดต่อเพื่อจ่ายเงินตามที่มีการเรียกเก็บจากสมาชิกเพิ่มเติมจำนวนหนึ่ง ขณะที่นางกร วงศ์ภักดี อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 12 บ้านพะวร ต.จานแสนไชย อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติพี่น้องที่เป็นสมาชิกของสมาคมได้มาพบกับ ดร.สามัคคี เดชกล้า นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น การที่สมาชิกมีการเรียกร้องว่า ให้สมาคมขายตึกและทรัพย์สินของสมาคมเพื่อนำเอาเงินมาจ่ายคืนให้กับสมาชิก และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้สมาคมต้องล้มเลิกกิจการหรือไม่อย่างไร ซึ่ง ดร.สามัคคีแจ้งว่า หากว่า สมาคมฯมีการล้มเลิกกิจการตามกฎหมายแล้วทรัพย์สินต่าง ๆ จะต้องตกเป็นของแผ่นดิน ไม่สามารถนำเอาไปขายเพื่อนำเงินมาแบ่งปันกันได้ และยืนยันว่า สมาคมฯไม่มีวันล้มเลิกกิจการอย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อ นางกร วงศ์ภักดี ได้รับทราบแล้วแจ้งว่า จะส่งเงินที่สมาคมฯเรียกเก็บเพิ่มเติมต่อไป เพื่อที่เมื่อตนเสียชีวิตไปแล้วลูกหลานจะได้มีเงินในการเลี้ยงตนเองและใช้เป็นทุนในการทำมาหากินเลี้ยงครอบครัวต่อไป
ดร.สามัคคี เดชกล้า นายกสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ชมรมสาธารณสุขแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การที่มีสมาชิกของสมาคมไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 70 กว่ารายนั้น ตนไม่หนักใจแต่อย่างใดเพราะว่าสมาชิกที่เราค้างจ่ายเงินอยู่มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 500 กว่าราย ทั้งหมดที่ไปแจ้งความถ้ามาพิสูจน์หลักฐานกันมันก็เป็นเงื่อนไขที่เราตกลงกันไว้อยู่แล้วว่า สมาชิกจะได้รับเงินเดือนไหนอย่างไร การจ่ายเงินจะเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับของสมาคมที่ว่า ถ้าคนเป็นจ่ายเงินเข้ามาก็จ่ายเงินให้คนตาย ส่วนคนที่ไปแจ้งความอยู่ในวันนี้นั้น ตนขอเรียนว่า ข้อที่ 1 ทุกคนได้รับเงินช่วยค่าทำศพไปแล้วคนละ 50,000 บาท ข้อ 2 ได้รับเงินไปแล้วคนละ 200,000 บาท สมาชิกจ่ายเงินให้สมาคมนั้น คนที่จ่ายเงินมากที่สุดเป็นเวลา 11 ปี จ่ายมาเพียงคนละ 44,100 บาท แต่วันนี้ทุกคนที่ไปแจ้งความได้รับเงินไปแล้วคนละ 250,000 บาท เขาก็ต้องรอบ้าง เมื่อมีคนเสียชีวิตเยอะก็ต้องทยอยจ่ายกันไป เมื่อมีการไปแจ้งความดำเนินคดีตนไม่หนักใจ เพราะว่าตนมีข้อเท็จจริงที่จะชี้แจงกับสมาชิกทุกคนได้ ตนพร้อมที่จะต่อสู้คดี แก้ข้อกล่าวหาไม่หลบหนีไปไหนยืนยันว่าไม่หนีไปไหน เนื่องจากมีข้อเท็จจริงอยู่แล้วว่าตอนที่สมาชิกทุกคนมาสมัครก็ได้ตกลงเงื่อนไขอะไรเอาไว้ วันนี้เหตุที่จ่ายเงินช้าเนื่องจากว่า มีสมาชิกเสียชีวิตเยอะเราไม่เคยบอกว่าเราจะไม่จ่าย เพียงแต่ว่าให้รอบ้างแล้วเราก็จะสามารถดำเนินการได้ ตนขอยืนยันว่าหากสมาชิกทุกคนเชื่อมั่นในกติกาจ่ายเงินคนละ 1,040 บาทเข้ามาในเดือนกุมภาพันธ์ช้าบ้างก็ได้ จ่ายรอบที่ 2 จำนวนเงิน 1,040 บาท ในเดือนมีนาคม ก็สามารถที่จะเคลียร์หนี้ที่ค้างจ่ายได้ครบทุกคน 100เปอร์เซ็นต์ เราเก็บเงินสมาชิกรายปกติคนละ 5,050 บาทเหมือนเดิม เก็บใช้หนี้รายเก่า 2,080 บาทรวมแล้วเรายังเก็บน้อยกว่าสมาคมอื่น แล้วเรายังสงเคราะห์ก่อนสมาคมอื่นอย่างแน่นอนตนขอยืนยัน