จากกรณีเกิดเหตุความวุ่นวายที่เรือนจำกระบี่ นักโทษชายกว่า 300 รายพากันลุกฮือขึ้นเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด-19 ออกไปรักษาตัวนอกเรือนจำ มีการทำลายข้าวของภายในเรือนนอน จนกลายเป็นเหตุจลาจล  ต้องใช้เวลานานกว่า 10 ชั่วโมงจึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ซึ่งต่อมา 04.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. ผู้ต้องขังได้เริ่มเผาทำลายอาคารร้านค้าสงเคราะห์และสูทธรรม โดยใช้ถังแก๊ส เจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงเข้าควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลาม ขณะที่อีกส่วนได้ประชุมแผนเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์อีกครั้ง โดยพลตำรวจตรีชัยวัฒน์ ผบก.ภ.จว.กระบี่ ร่วมกับ ผบ.กลุ่มราชทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร ร่วมวางแผนขณะด้านนอกเรือนจำได้ปิดการบริเวณถนนอุตรกิจ พร้อมเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดควบคุมฝูงชน ตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ เจ้าหน้าที่เรือนจำ จังหวัดใกล้เคียง

 

 

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวันนี้  17 ธ.ค. พบว่าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เนื่องจากนักโทษกลุ่มที่ก่อเหตุและยังอยู่ในเรือนจำ ได้จุดไฟเผาเรือนนอนภายในเรือนจำ ไฟลุกไหม้วอดทั้งหลังในเวลาอันรวดเร็ว เนื่องจากเป็นเรือนนอนเก่า ขณะที่นักโทษบางส่วนพยายามหลบหนีออกทางกำแพง เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังล้อมไว้ พร้อมเตรียมส่งชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 8 และชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์เข้าสลายการชุมนุมก่อจลาจลในเรือนจำแล้ว

ทางด้านนายอายุตม์ สินธพพันธ์ุ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เปิดว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีแกนนำ 31 คน ก่อเหตุเผาอาคารเรือนนอนเก่า จนเสียหายทั้งหลัง ตอนนี้เพลิงสงบแล้ว และสามารถจับกุมตัวแกนนำทั้งหมดได้ หลังจากนี้จะนำไปคุมขังไว้ที่เรือนจำเขาบิน และแจ้งข้อหาดำเนินคดี เพราะทำให้ทรัพย์สินราชการเสียหาย ส่วนความเสียหายทั้งหมด รอให้พนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบอีกครั้งพรุ่งนี้

สำหรับจำนวนนักโทษและผู้ต้องขังเรือนจำ จ.กระบี่ รวม 2,423 คน แยกเป็น ผู้ต้องขังหญิง 263 คน ถูกส่งไปเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อยทั้งหมด ผู้ต้องขังชาย 2,160 คน ทางกรมราชทัณฑ์ กำหนดแผนให้ย้ายออกจากเรือนจำ จ.กระบี่ จำนวน 1,400 คน โดยแยกไปขังที่เรือนจำ จ.ภูเก็ต พังงา นครศรีธรรมราช ซึ่งการขนย้ายนักโทษและผู้ต้องขังชาย ต้องระดมรถคุมตัวของเรือนจำ และตำรวจ จาก 7 จังหวัด มาช่วยกันขนย้าย คาดว่าจะขนย้ายในวันเดียวกันนี้จำนวน 400 คน ส่วนที่เหลือจะขนย้ายอีกครั้งในวันที่ 18 ธ.ค. เนื่องจากจะยุติการย้ายนักโทษในตอนกลางคืน เพราะเกรงจะเกิดความวุ่นวาย หลังจากนั้น จะเจรจาให้กลุ่มแกนนำก่อความวุ่นวาย 20 คน ยอมยุติการจลาจล โดยสามารถแยกตัวแกนนำออกมาได้แล้ว 3 คน หากกลุ่มแกนนำที่เหลือไม่ยอมยุติ ก็อาจจะมีการใช้กำลังชุดปฏิบัติการพิเศษของกรมราชทัณฑ์ เข้าสลายการชุมนุม จนล่าสุด ได้เกิดจลาจลจุดไฟเผาขึ้นภายในเรือนจำ