เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"พ่อฝ่ายหญิง" อโหสิกรรมให้กับครอบครัว "ทหารโหด" หลังก่อเหตุยิงเมียหน้าอำเภอ


10 ธ.ค. 2564, 15:11



"พ่อฝ่ายหญิง" อโหสิกรรมให้กับครอบครัว "ทหารโหด" หลังก่อเหตุยิงเมียหน้าอำเภอ




จากกรณีที่พลอาสาประยงค์อายุ 34 ปี  ได้ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง  8 นัด ฆ่าโหด น.ส.เชาวนี อายุ 34 ปี ภรรยาที่นัดกันมาหย่าเสียชีวิตคาที่ภายในรถปิคอัพที่จอดอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้นพลอาสาประยงค์ได้ขับรถหลบหนีไปที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ และได้ไปใช้อาวุธปืนยิงศีรษะตัวเองเสียชีวิตที่ศาลหลักเมืองกันทรลักษ์ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. เศษ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา  ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดพระใหญ่ ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ญาติพี่น้องของพลอาสาประยงค์ สมพงษ์ มือปืนที่ก่อเหตุฆ่าภรรยาของตนเอง ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานศพของ พลอาสาประยงค์  โดยมีการจัดตั้งโลงศพ นำเอารูปของพลอาสาประยงค์ในเครื่องแบบเต็มยศมาประดับข้างโลงศพ  ทั้งนี้เพื่อรอรับศพของพลอาสาประยงค์ ซึ่งขณะนี้ศพยังอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสะเกษเพื่อทำการชันสูตรศพ จากนั้นคาดว่าญาติจะรับศพของพลอาสาประยงค์กลับมาประกอบพิธีทางศาสนาในช่วงบ่ายของวันนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะเดียวกันที่บ้านเขวา หมู่ 4 ตำบลกระแชง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ  ซึ่งห่างจากวัดพระใหญ่ประมาณ 4 กิโลเมตร ญาติพี่น้องของ  น.ส.เชาวนี  อารีย์  ได้ช่วยกันจัดเตรียมสถานที่เพื่อเตรียมจัดงานศพของ  น.ส.เชาวนีที่ถูกยิงเสียชีวิตในครั้งนี้ โดยญาติพี่น้องได้ช่วยกันกางเต็นท์และจัดเตรียมอาสนะพระสงฆ์พร้อมทั้งจัดเก้าอี้เพื่อรอรับแขกเหรื่อที่จะมาร่วมไว้อาลัยในงานศพ โดยมีนายสันติชัย อารีย์ อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.เชาวนี และญาติพี่น้องช่วยกันจัดเตรียมงานในครั้งนี้ ส่วน นางถวิล อารีย์ แม่ของ  น.ส.เชาวนี ได้เดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์  เพื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติมประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย



นายสันติชัย อารีย์  อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.เชาวนี กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า  เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ตนเสียใจมาก เพราะไม่คาดคิดว่าพลอาสาประยงค์จะก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตน ซึ่งก่อนเกิดเหตุพลอาสาประยงค์ไม่เคยมาที่บ้านของตนแต่อย่างใด แต่ล่าสุดเมื่อประมาณ 2 วันที่ผ่านมา พลอาสาประยงค์ได้เข้ามาที่บ้านของตน เพื่อที่จะมาตามตัว น.ส.เชาวนี กลับไปอยู่ด้วยกันที่กรุงเทพฯ แต่ลูกสาวของตนบอกว่าไม่สามารถที่จะทนกับพฤติกรรมความหึงหวงอย่างรุนแรงของพลอาสาประยงค์ได้อีกต่อไปแล้ว และได้นัดหมายไปหย่าร้างกันที่ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนได้อโหสิกรรมให้กับพลอาสาประยงค์และครอบครัวที่ก่อเหตุฆ่าลูกสาวของตน หากว่าไม่เอาอโหสิกรรมเรื่องก็คงไม่จบสิ้นจะต้องเป็นเวรเป็นกรรมกันอีกต่อไปส่วนการตั้งศพของลูกสาวตนนั้นจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลประมาณ 3 วันจึงจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพต่อไป  สิ่งหนึ่งที่ตนสงสัยก็คือ  ทหารทำไมจึงได้ถือปืนมาไล่ยิงคนตายแบบนี้ ไม่ใช่มีเฉพาะตำรวจหรือที่มีสิทธิ์ถือปืนเข้ามาในที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ ไม่ทราบว่าเป็นปืนจากไหน  เป็นปืนส่วนตัวหรือว่าเป็นปืนของทางราชการ ตนจึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายในเรื่องนี้ด้วย  ซึ่ง นางสาวเชาวนี มีลูก 2 คน คนเล็กเป็นผู้ชายชื่อ น้องธันวา  เรียนอยู่ชั้นอนุบาล 3 และคนโตเป็นผู้หญิงชื่อ น้องอั้ม เรียนอยู่อยู่ชั้น ม.4  เด็กทั้ง 2 คนต้องกลายเป็นลูกกำพร้าแม่ ตนแก่แล้วแต่ต้องมารับภาระเลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน ไม่ทราบว่า จะสามารถเลี้ยงหลานได้นานเท่าใด และจนบัดนี้ฝ่ายก่อเหตุยังไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลแต่อย่างใด







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.