"2สามีภรรยา" ผวา ! เจอช้างป่าออกมากินพืชไร่ วิ่งหนีตายกว่า 2 กม.ขอความช่วยเหลือจากทหาร
25 พ.ย. 2564, 08:54
วันที่ 24 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านไทยสันติสุข ม.16 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชาว่าเวลาประมาณ 21.30 น.ของคืนวันที่ 23 พ.ย.2546 ที่ผ่านมามีช้างป่าออกมาหากินพืชสวนชาวบ้าน ซึ่งห่างจากหมู่บ้านเพียง 500 เมตร มีชาวบ้านที่ออกกรีดยางเผชิญหน้ากับช้างป่าในระยะประชิดต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจนได้รับบาดเจ็บที่ขา ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่พร้อมผู้ใหญ่บ้านเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง พบว่าบริเวณที่ช้างป่าออกมาหากินนั้นมีทั้ง สวนยาง ไร่อ้อย ไร่มัน สวนถั่วฝักยาว มีร่องรอยการกัดกินอ้อยและมันสำปะหลังประปราย พร้อมกับทิ้งกองอุจจาระไว้หลายจุด แต่ความเสียหายของพืชเกษตรที่ช้างป่ากัดกินนั้นก็ไม่เสียหายมากนัก แต่สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่ต้องออกมากรีดยางในช่วงเวลากลางคืนมากกว่า เพราะพื้นที่ บ้านไทยสันติสุข มีสวนยางจำนวนหลายพันไร่ มีชาวบ้านทำอาชีพสวนยางหลายครอบครัว
น.ส.กุลนัน นุสิตรัมย์ อายุ 22 ปี่ ชาวบ้านไทยสันติสุข ม.16 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ได้เล่าเหตุการณ์ระทึกขณะเผชิญหน้ากับช้างป่ากลางสวนยางว่า ตอนนั้นเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆขณะที่ตนและสามีกำลังกรีดยางอยู่ในสวนซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร คุณยายเพื่อนบ้านที่มีสวนอยู่ติดกันได้ตะโกนบอกว่ามีช้างป่าเข้ามาในสวน พ่อของตนซึ่งอยู่ในกระท่อมก็รีบวิ่งมาบอกตนให้รีบปิดไฟฉายที่ใช้ส่องกรีดยาง ตนและสามีจึงรีบปิดไฟและนั่งลงเพื่อฟังเสียง ก็ได้ยินเสียงเหมือนช้างกำลังเดิน สามีของตนจึงตัดสินใจใช้ไฟส่องไปทางที่ได้ยินเสียงก็พบว่ามีช้าง 2 ตัวน่าจะเป็นแม่กับลูกกำลังเดินเข้ามาในระยะใกล้มาก ห่างจากตนและสามีประมาณไม่ถึง 10 เมตร ตนและสามีตกใจมากจึงตัดสินใจวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต โดยวิ่งมุ่งหน้าไปทางฐานทหารที่ปราสาทตาควาย โดยวิ่งตัดสวนยางของเพื่อนบ้านไปท่ามกลางความมืดเพราะไม่กล้าเปิดไฟ ทำให้ตนล้มหลายครั้งจนรู้สึกเจ็บที่ขาบริเวณเหนือข้อเท้าและมีอาการชาที่นิ้วเท้า จนสามีต้องช่วยพยุงและวิ่งต่อไปจนถึงฐานทหารที่ทางเข้าปราสาทตาควายเพื่อขอความช่วยเหลือจากทหาร รวมระยะทางวิ่งหนีไปน่าจะมากกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งวันนี้ก็กำลังจะให้สามีพาไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูอาการเจ็บและบวมที่ขา เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นช้างป่าในระยะที่ใกล้ที่สุดในชีวิตเป็นครั้งแรก โชคดีที่รอดชีวิตมาได้
คุณตาพวย พอกฉลาด อายุ 64 ปี ชาวบ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เล่าว่าขณะนั้นเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆ ตนนอนหลับอยู่ในกระท่อมข้างคอกควายสองคนกับภรรยาก็ได้ยินเสียงหมาเห่า ที่แรกตนก็คิดแต่วัวเพื่อนบ้านหลุดมากินหญ้าข้างๆกระท่อมที่ตนปลูกไว้ จึงลุกขึ้นมาส่องไฟดูจึงพบว่าเป็นช้างป่ากำลังกินหญ้าอยู่ และอีกตัวกำลังเดินหันหลังกลับเข้าไปในสวนยาง แต่ตัวที่กำลังกินหญ้าอยู่มีอาการฟืดฟัดใส่หมาของตนที่กำลังเห่า ตนจึงตะโกนไล่ ช้างป่าจึงหันหลังกลับแล้วเดินตามกันไป ตนจึงรีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบ เพราะกลัวชาวบ้านที่ออกมากรีดยางตอนกลางคืนอาจจะได้รับอันตราย ส่วนตนตกใจมากไม่คิดว่าช้างป่าจะเข้ามาใกล้หมู่บ้านขนาดนี้ เคยมีคนเห็นบ้างเมื่อปีที่แล้วแต่ก็เห็นอยู่ในป่าแถบแนวชายแดน ไม่เคยเห็นเข้ามาใกล้หมู่บ้านขนาดนี้ซึ่งตรงนี้ห่างหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร คืนนี้ตนคงไม่กล้านอนเฝ้าควายอีกแน่คงต้องให้ลูกชายออกมาช่วยเฝ้าให้
ด้าน น.ส.วิมล แข่งเพ็ญแข ผู้ใหญ่บ้านไทยสันติสุข ม.16 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เล่าว่าหลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านเมื่อเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆ ว่าพบช้างป่า 3 ตัวเข้ามาในพื้นที่สวนยางใกล้ๆหมู่บ้าน ตนจึงได้แจ้งทางอำเภอให้ทราบ และประสานเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ป่าไม้ในเขตพื้นที่ให้ออกมาช่วยดู พร้อมเรียกผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านออกมารวมกับเจ้าหน้าที่ อส.ที่ทางอำเภอส่งมาออกติดตามช้างป่าทันที่แต่ก็ไม่พบ พบเพียงร่องรอยของช้างป่าที่เดินวนเวียนในพื้นที่สวนยางและไร่อ้อยไร่มันของชาวบ้าน ตนจึงหารือกับชาวบ้านแล้วช่วยกันตั้งจุดเวรยามเฝ้าระวังตลอดทั้งคืนเพื่อคอยเตือนชาวบ้านที่จะออกไปกรีดยางให้ระมัดระวังหรือให้งดกรีดยางก่อนในระยะนี้ เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกของหมู่บ้านที่ช้างป่าเข้าใกล้หมู่บ้านมากที่สุด สำหรับความเสียหายของพืชเกษตรของชาวบ้านก็ถือว่าเสียหายไม่เยอะมากแต่ชาวบ้านกลัวอันตรายจากช้างป่ามากกว่า และคิดว่าช้างป่าโขลงนี้น่าจะยังวนเวียนอยู่ในพื้นที่ชายป่าของหมู่บ้านน่าจะยังยังไม่หนีไปไหนก็คงต้องเฝ้าระวังกันต่อไป