"หลวงพ่อโปร่ง โชติโก" เกจิดังเมืองชุมพร ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 90 พรรษา
3 ก.ย. 2562, 08:08
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2562 หลวงพ่อโปร่งโชติโกหรือพระครูโสธยาพิกุล พระเกจิ ชื่อดังของจังหวัดชุมพร ได้ มรณภาพ ไปอย่างสงบ โดยมีพระภิกษุสงฆ์จำนวนมากและพุทธศาสนิกชนเดินทางไปที่วัดถ้ำพรุตะเคียน นายทนงศักดิ์ เกิดผล ลูกศิษย์คนสนิทของหลวงพ่อโปร่ง โชติโก เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 12.00 น.ของวันนี้ ตนเองพร้อมทั้งลูกศิษย์คนอื่นๆยังได้พูดคุยกับหลวงพ่อ ตามปกติและหลวงพ่อยังพูดจาโต้ตอบได้ หัวเราะได้ ไม่มีอาการที่จะ ละสังขารแต่อย่างใด ต่อมาหลวงพ่อได้เอนตัวนอน และหลับตา ลูกศิษย์มาทราบอีกที เมื่อเวลา 13.00 น เพราะหลวงพ่อนอนนิ่งไม่เคลื่อนไหว จึงเข้าไปดูอาการ พบว่า ชีพจรหยุดเต้น จึงได้แจ้งพยาบาลจากโรงพยาบาลชุมชนใกล้เคียง เข้ามาช่วยยื้อชีวิต แต่เนื่องจาก ไม่มีอาการตอบสนองใดๆทั้งสิ้น จนหมดหนทาง
พระราชวิจิตรปฏิภาณ เจ้าคณะจังหวัดชุมพร ได้เดินทางมาที่วัดถ้ำพรุตะเคียน สั่งการให้ศิษย์ยานุศิษย์ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลางและใต้ รดน้ำศพตลอดทั้งคืน ของวันที่ 2 กันยายน จากนั้นตั้งศพสวดพระอภิธรรม ภายในวัดถ้ำพรุตะเคียนเป็นเวลา 100 วัน
ในเวลา 18.00 น. นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร เป็นประธานในพิธีสรงน้ำสรีระสังขารของหลวงพ่อโปร่ง มี พระราชวิจิตรปฏิภาณ เจ้าคณะจังหวัดชุมพร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ท่ามกลาง ประชาชนที่หลั่งไหลมาที่วัดร่วมพันคน อีกทั้ง ถนนทางเข้าวัดจากศาลพ่อตาหินช้าง ริมถนนเพชรเกษมเริ่มมีรถทยอยเดินทางมายังวัดหนาแน่นตลอดเวลา ด้วยความศรัทธาในตัวหลวงพ่อที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการปฏิบัติธรรมด้วยความเคร่งครัด และ ความเชื่อในวัตถุมงคลรุ่นต่างที่ผ่านการปลุกเสกจากหลวงพ่อโป่งว่ามีความขลังและพุทธคุณในหลายด้านแก่ผู้ที่เลื่อมใส
หลวงพ่อโป่งเป็นพระนักพัฒนาไม่นิยมในการสร้างเหรียญรูปเหมือนของท่าน จึงมีเหรียญรูปของท่านน้อยมาก ทำให้มีผู้ต้องการเหรียญรูปของท่านไปไว้บูชามาก จนทำให้ราคาเหรียญรูปของท่านมีราคาสูงหลักหมื่น สำหรับเหรียญรุ่นสุดท้ายที่อนุญาตให้สร้าง คือรุ่น”มหาเพชรกลับ”
สำหรับ หลวงพ่อโปร่งโชติโก เมื่อปี พ.ศ 2520 ได้แสวงหาที่ปฏิบัติกรรมฐานจากภาคเหนือเดินทางมาภาคใต้ ที่จังหวัดชุมพร และได้ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงพ่อเภา ที่วัดถ้ำเขาพลู อำเภอปะทิว ช่วงออกพรรษาท่านได้จาริกมาที่ถ้ำพรุตะเคียน อำเภอท่าแซะ จากนั้นหลวงพ่อท่านไปไปมามาอยู่อย่างนี้จนถึงปี 2528 ชาวบ้านจึงสร้างกุฎิสงฆ์ให้ 1 หลัง และขออนุญาตเป็นสำนักสงฆ์ จากนั้นก่อสร้างกุฏิบนยอดเขา ขึ้นเพิ่มขึ้นมาอีกพ.ศ. 2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นที่จังหวัดชุมพร ต้นไม้บ้านเรือนพังเสียหายแทบทั้งจังหวัด แต่กุฏิไม้บนยอดเขาของหลวงพ่อไม่เสียหาย เป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง
ในปี พศ 2533 ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันเริ่มการก่อสร้างศาลาไม้ สร้างพระใหญ่ พร้อมกับการก่อสร้างกุฏิไม้ตามไหล่เขาเพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ที่ธุดงได้มาจำวัดช่วงเข้าพรรษา ต่อมาปี 2537 ก็ได้เริ่มก่อสร้างหอระฆังพร้อมกับพระใหญ่ ซึ่งอยู่บนยอดเขา สร้างพระธาตุรัตนเจดีย์บนยอดเขา โดยหลวงพ่อโปร่ง ได้หล่อพระพุทธะโลกะวิทูเอาไว้ในพระธาตุ ในปี พ.ศ 2547 ได้จดทะเบียนเป็นวัดโดยถูกต้อง และปีพ.ศ 2550 เริ่มก่อสร้างพระอุโบสถขนาดกว้าง 9 เมตรยาว 30 เมตรสูง 60 เมตร หลวงพ่อโปร่งโชติโก ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูโสธยาพิกุล เป็นพระเกจิอาจารย์ ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและยังเป็นพระนักพัฒนาเป็นที่นับถือศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชุมพรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี และใกล้เคียงปัจจุบันสิริอายุ 90 อุปสมบทมาพรรษาที่ 44 และกำลังหล่อรูปเหมือนองค์ใหญ่สูง 11.99 เมตรหน้าตัด กว้าง 99 เมตร ซึ่งทำพิธีไปเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา