โจรฉกเงินคนชราเริ่มอาละวาดแล้ว ตา 85 ปี ชาว อ.หนองกี่ บุรีรัมย์ โดน 1,600 บาท ใช้วิธีเดิม ขี่รถตระเวนหาคนชรา ที่มักอยู่บ้านตามลำพัง พูดจาตีสนิทสบโอกาสขอเข้าห้องน้ำภายในบ้านแล้วค้นหาทรัพย์สินมีค่าแล้วหลบหนีไป เตือนระวังคนร้ายกลุ่มนี้มักจะออกมาอาละวาดในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวทุกปี เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีแต่คนชราอยู่บ้านตามลำพัง

 

 

วันที่ 31 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านโนนทอง ต.ทุ่งกระตาดพัฒนา อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกแก๊งมิจฉาชีพเข้าไปฉกเอาเงินของคนชราภายในบ้านแล้วหนีไปอย่างลอยนวลและอยากจะแจ้งเตือนให้ระวัง

จากการตรวจสอบผู้ที่ถูกคนร้ายขโมยเงินไปคืนนายอ่อนสา อายุ 85 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ โดยนายอ่อนสา เล่าว่า เมื่อวานนี้ ( วันที่ 30 ต.ค ) เวลาประมาณ 12.00 น. ได้มีผู้หญิงอายุประมาณ 40-50 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง มาจอดที่หน้าบ้าน แล้วเดินมาหาตนช่วงนั้นกำลังนั่งเก้าอี้นั่งเล่นอยู่หน้าบ้านคนเดียว แล้วถามว่าลูกเขยอยู่บ้านไหม จึงตอบไปว่าไม่อยู่ไปทำงานอยู่ กทม. หลังจากนั้นหญิงคนดังกล่าวได้นั่งพูดคุยเหมือนมีความสนิทสนมกับลูกเขยเป็นอย่างดี

โดยนั่งคุยกันประมาณ 10 นาที หญิงคนดังกล่าวขอเข้าห้องน้ำภายในบ้าน ตนก็บอกให้ไปเข้าในบ้านเพราะเป็นคนกันเอง โดยจับสุนัขที่เลี้ยงไว้ให้เนื่องจากกลัวสุนัขจะทำร้ายหญิงคนดังกล่าว ประมาณ 5 นาที หญิงคนดังกล่าวได้ออกมาแล้วบอกว่า "หนูจะไปธุระต่อให้พ่อรักษาสุขภาพด้วยนะเป็นห่วง” โดยหยิบนมส่งให้ 1 แพ็ค บอกเก็บเอาไว้กิน

ผ่านไปประมาณ 30 นาที ตนจึงเดินเข้าบ้านแต่เห็นมีความผิดปกติเพราะกางเกงที่ตนถอดกองไว้กลางบ้านไปอยู่อีกมุมหนึ่งจึงล้วงกระเป๋าดูพบว่าเงินสดจำนวน 1,600 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ลูกสาวส่งมาให้และเป็นเงินคนชรา ได้หายไปจึงแจ้งให้กับผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านทราบดังกล่าว

นายเก้า อายุ 52 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า จำได้ว่าเห็นผู้หญิงคนนี้ขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียวไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่แปลกใจว่าทำไมรู้ว่าตาอยู่บ้านคนเดียวและทำไม่รู้ว่า หมู่บ้านมีงานกฐินอยู่ที่วัด เชื่อว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ

ด้านนางทอง อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นประจำในเขตพื้นที่ภาคอีสานโดยเฉพาะช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะไปที่นากันเกือบทั้งหมดส่วนคนชรา จะให้อยู่บ้านตามลำพัง และแก๊งนี้ก็จะฉวยโอกาสในช่วงนี้ออกมาอาละวาด ด้วยการเข้ามาตีสนิททำเหมือนรู้จักคนภายในบ้าน

หลังจากนั้นก็จะใช้อุบาย เพื่อให้เข้าถึงภายในบ้านหรือจุดที่ซ่อนทรัพย์สิน แล้วขโมยทรัพย์สินมีค่าไป จึงอยากจะขอแจ้งเตือนประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะชาวนาเพราะจะมีแก๊งนี้ออกอาละวาดเป็นประจำทุกปีในช่วงฤดูทำนา ส่วนนายอ่อนสา ได้พาไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ. สุพจน์ แรกไธสง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว