จากกรณี นายจีรพันธ์ แสงขาว หรือ หมอปลา พร้อมด้วยนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำคณะสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หมู่ 10 ต.ด่านมะขามเตี้ย อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองของอดีตผู้บำบัดชายรายหนึ่งว่า ถูกซ้อมทรมาน ให้ทำสัญญาและเรียกเก็บเงิน หากจะออกมาก็ต้องจ่ายเงิน โดยมีผู้บำบัดอยู่กันอย่างแออัดประมาณ 300 คน แต่มีห้องน้ำเพียง 2 ห้อง พร้อมตั้งคำถามว่า ศูนย์ที่ตั้งขึ้นมาเป็นไปตามหลักเกณฑ์มาตรฐานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดหรือไม่ วันเดียวกันนั้น พระครูปลัดประสิทธิ์ รตินฺธโร เจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ได้มรณภาพลงก่อนที่ทางทีมงานของทนายไพศาล จะเดินทางมาถึงที่วัดเพียง 15 นาที เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ก.ย.64 ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

วันนี้ 21 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานสาธารณสุขอำเภอด่านมะขามเตี้ย นายรณภพ เวียงสิมมา ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานประชุมหารือในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าจะยังคงเปิดศูนย์ดังกล่าวต่อไปหรือจะมีการปิดศูนย์บำบัดตลอดไป การประชุมครั้งนี้มีนายแพทย์อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนาระบบสุขภาพ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี นางสาว เพ็ญศรี กลั่นบุศย์ นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย นายสุรพร จันทร์สุนทรพจน์ ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย พระชาญวิทย์ ชิตมาโร พระเลขาศูนย์บำบัดฯ รวมทั้ง เจ้าหน้าที่สถาบันธัญญารักษ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่เข้าร่วมประชุม

 

ต่อมาเวลา 12.00 น. นายรณภพ เวียงสิมมา ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี ได้เดินทางกลับ โดยให้นายแพทย์อังกูร ภัทรากร รองผู้อำนวยการด้านการพัฒนาระบบสุขภาพ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี เป็นประธานการประชุมแทน จนกระทั่งเวลา 14.00 น. การประชุมจึงแล้วเสร็จ จากนั้นคณะของนายแพทย์อังกูร ภัทรากร ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อสำรวจสภาพพื้นที่ของศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง พบมีการนำกุญแจมาล็อกประตูทางเข้าเอาไว้ถึง 2 ดอก และนอกจากนี้ยังได้สำรวจห้องน้ำที่มีอยู่ใกล้กัน พบมีมากถึง 10 ห้อง

โดย นพ.อังกูร ภัทรากร รอง ผอ.ด้านการพัฒนาระบบสุขภาพ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี เปิดเผยหลังว่า วันนี้เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางได้เดินทางมาร่วมประชุมกับจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีท่านปลัดจังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธาน เพื่อหาทางออกร่วมกัน เมื่อได้ข้อสรุปอันดับแรกเลยก็คือต้องมีการปิดศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ที่ดำเนินการโดยวัดท่าพุราษฎร์บำรุงที่ดูแลผู้ป่วยยาเสพติด

 

ในส่วนของผู้บำบัดที่ย้ายไปอยู่ที่เขาชนไก่ ของ มทบ.17 ก็คงจะต้องหาแนวทางช่วยเหลือคนเหล่านี้ให้กลับบ้านไป แต่หากมีผู้บำบัดรายใดที่จำเป็นจะต้องรักษาต่อหรือมีโรคจิตเวชที่อยู่ไกลบ้านก็คงจะต้องประสานไปยังหน่วยงานต่างให้เข้ามาช่วยเหลือกันในการบริหารจัดการให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้

 

สำหรับผู้ที่เข้ามารับการรักษาบำบัดเบื้องต้นทราบว่ามีจำนวน 254 ราย แต่ตอนนี้เหลืออยู่ที่ประมาณ 134 ราย เพราะมีญาติและครอบครัวเดินทางมารับตัวผู้บำบัดกลับบ้านไปหลายคนแล้ว สำหรับสถานบำบัดแห่งนี้ได้รับการอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่ถือว่าเป็นการดำเนินงานโดยเอกชนในการช่วยเหลือภาครัฐรักษาผู้ป่วยติดยาเสพติด ที่เรียกกันว่าสถานฟื้นฟูสมรรถภาพ ไม่ใช่สถานที่ถอนพิษยาหรือให้ยา ไม่ได้ใช้หมอหรือพยาบาล สถานที่แห่งนี้คือสถานฟื้นฟูร่างกายและจิตใจทางสังคมซึ่งทางวัดเองช่วยได้เยอะเพราะเป็นการใช้ศาสนาเข้ามาช่วยกลัดเกลาจิตใจ

 

สำหรับศูนย์สงเคราะห์บำบัดฯ แห่งนี้ได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีการระบุจำนวนคนเอาไว้ที่ 50 คน แต่ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้มีจำนวนผู้เข้าบำบัดเพิ่มขึ้นเนื่องจากเดินทางกลับบ้านไม่ได้เรื่องนี้จะต้องไปดูอีกครั้งหนึ่ง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ช่วงบ่ายวันนี้ นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯกาญจนบุรี ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจผู้บำบัดฟื้นฟูที่ย้ายสถานที่มาจากวัดท่าพุราษฏร์บำรุง มาพักอาศัยอยู่ที่เขาชนไก่ มทบ.17 ทั้งหมด จำนวน 254 ราย เป็นผู้บำบัดที่สมัครใจบวชเป็นพระ จำนวน 40 รูป และผู้บำบัดที่ไม่ได้บวชอีก จำนวน 214) หลังจากทางครอบครัวและญาติของผู้บำบัดทราบข่าวได้เดินทางมาจากหลายจังหวัดเพื่อมารับกลับบ้านแล้ว จำนวน 155 ราย ยังคงเหลืออยู่ จำนวน 99 ราย ใน 99 ราย เป็นพระ 12 รูป

โดยนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดตรวจ เข้ามาดำเนินการรักษาผู้บำบัดที่ป่วยเป็นโรคผิวหนัง รวมทั้งตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี ATK ผลตรวจไม่พบใครติดเชื้อโควิด-19 โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบก ที่ 17 (มทบ.17) คอยดูแลกลุ่มผู้บำบัดเป็นอย่างดี