วันที่ 15 ก.ย.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า รายงานว่า จากที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศเตือนเรื่องผลกระทบและจะมีฝนตกหนักจากพายุโกนเซิน ระหว่างวันที่ 12-13 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีฝนตกลงมาไม่มากนัก ถือว่าปริมาณน้อย แต่ก็ทำให้มีน้ำไหลเข้าตามลำคลองและลำห้วยต่างๆ จนไหลล้นฝายกักน้ำตามลำห้วยต่างๆในบ้างแห่ง ซึ่งจากที่มีน้ำไหลล้นฝายกักเก็บน้ำ ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ติดกับลำห้วย ต่างใช้โอกาสในช่วงนี้ ออกมาหาจับปลามาประกอบอาหารทำกินในครอบครัว ส่วนที่เหลือก็นำไปขายสร้างรายได้ให้กับครอบครัว

โดยเฉพาะที่ฝายน้ำล้นบ้านใหม่ ต.ตระแสง อ.เมือง จ.สุรินทร์ โครงการชลประทานสุรินทร์ ซึ่งเป็นฝ่ายน้ำล้นขนาดใหญ่กั้นน้ำที่ไหลมาจากลำห้วยฝายน้ำล้นทุ่งมน ต.ทุ่งมน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ก่อนไหลลงสู่ลำน้ำชี ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งจากอำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์ และจ.สุรินทร์ เอง ต่างพากันนำอุปกรณ์หาปลาซึ่งเป็นอุปกรณ์แบบภูมิปัญญาท้องถิ่นที่คิดกันขึ้นมาเอง โดยใช้เหล็กเส้นมาดัดงอเป็นรูปสี่เหลี่ยม ความยาวประมาณ 150 ซ.ม.กว้าง 50 ซ.ม.ก่อนนำผ้าแยงหรือตาข่ายเขียวตาถี่ มาเย็บเข้ากับโครงเหล็ก และทำช่องดักปลาไม่ให้ปลากระโดดออกมาได้ ผูกเชือกสองข้างหย่อนลงไปตรงบริเวณฝายน้ำล้น เมื่อปลากระโดดสวนทางกับน้ไหลขึ้นมาที่ฝายน้ำล้นปลาที่กระโดดมามาก็จะตกลงมาที่ช่องดักปลา พอปลาติดสัก 10 กว่าตัว ก็จะยกปลาขึ้นมาเก็บไว้ในถังน้ำแข็งที่เตรียมไว้ แล้วก็นำลงไปดักต่อวนไปแบบนี้จนได้ปลาเป็นที่พอใจค่อยเลิกทำ บางคนมีที่ดักปลามา 1-2 หลัง แบ่งกันตั้งดักเรียงกันตามแนวฝายน้ำล้น ขณะที่บางคนก็ใช้วิธีการหว่านแห บ้างคนก็ใช้ตุ้มในการดักปลา แล้วแต่ความชอบและถนัดของแต่ละคน

ซึ่งแต่ละวันในช่วงนี้ชาวบ้านดักปลาได้ เป็นจำนวนมาก ส่วนมากเป็นปลาตะเพียน ปลาขาว บางรายได้ปลาถึงวันละ 10-20 กิโลกรัม แบ่งไปไว้ทำอาหารในครอบครัวและแบ่งขาย โดยจะมีคนมาซื้อกันสดๆหน้าฝาย ขายกิโลกรัมละ 50 บาท หากเป็นปลากด ขายในราคา กก.ละ 200 บาท ทำให้ช่วงนี้ชาวบ้านที่หาปลาแต่ละคนมีรายได้จากการหาปลาขายในแต่ละวัน 500 -1,500 บาทเลยทีเดียว