ประวัติเทศกาลสารทจีน วันเซ่นไหว้บรรพบุรุษ รู้จักของเซ่นไหว้ และข้อห้ามที่ไม่ควรทำ
22 ส.ค. 2564, 14:40
วันที่ 22 สิงหาคม เป็นวันสารทจีนประจำปี 2564 ถือเป็นวันสำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย เริ่มต้นเทศกาลด้วยการเตรียมพร้อมซื้อของเตรียมไหว้บรรพบุรุษ สำหรับวันนี้นั้น ลูกหลานชาวจีนจะแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผ่าน "พิธีเซ่นไหว้" และยังถือเป็นเดือนที่ประตูนรกเปิดให้วิญญาณทั้งหลายมารับกุศลผลบุญได้ ส่วน "ของไหว้" หลักๆ จะเป็นอาหารคาว-หวาน และผลไม้ โดยเน้นเมนูที่บรรพบุรุษชื่นชอบ อีกทั้งในวันสารทจีน ก็ยังมีการไหว้เจ้าที่ และไหว้ผีไม่มีญาติเป็นการให้ทานอีกด้วย
ตามตำนานวันสารทจีน กล่าวไว้ว่ามีชายหนุ่มผู้หนึ่งมีนามว่า “มู่เหลียน” (พระมหาโมคคัลลานะ) เป็นคนเคร่งครัดในพุทธศาสนามาก ผิดกับมารดาที่เป็นคนใจบาปหยาบช้าไม่เคยเชื่อเรื่องนรก-สวรรค์มีจริง ปีหนึ่งในช่วงเทศกาลกินเจนางเกิดความหมั่นไส้คนที่นุ่งขาวห่มขาวถือศีลกินเจ นางจึงให้มู่เหลียนไปเชิญผู้ถือศีลกินเจเหล่านั้นมากินอาหารที่บ้านโดยนางจะทำอาหารเลี้ยงหนึ่งมื้อ
ผู้ถือศีลกินเจต่างพลอยยินดีที่ทราบข่าวว่ามารดาของมู่เหลียนเกิดศรัทธาในบุญกุศลครั้งนี้ จึงพากันมากินอาหารที่บ้านของมู่เหลียนแต่หาทราบไม่ว่าในน้ำแกงเจนั้นมีน้ำมันหมูเจือปนอยู่ด้วย การกระทำของมารดามู่เหลียนนั้นถือว่าเป็นกรรมหนัก เมื่อตายไปจึงตกนรกอเวจีมหานรกขุมที่ 8 เป็นนรกขุมลึกที่สุดได้รับความทุกข์ทรมานแสนสาหัส
เมื่อมู่เหลียนคิดถึงมารดาก็ได้ถอดกายทิพย์ลงไปในนรกภูมิ จึงได้รู้ว่ามารดาของตนกำลังอดอยากจึงป้อนอาหารแก่มารดา แต่ได้ถูกบรรดาภูตผีที่อดอยากรุมแย่งไปกินหมดและเม็ดข้าวสุกที่ป้อนนั้นกลับเป็นไฟเผาไหม้ริมฝีปากของมารดาจนพอง แต่ด้วยความกตัญญูและสงสารมารดาที่ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างสาหัสมู่เหลียนได้เข้าไปขอพญาเหงี่ยมล่ออ๊อง (ยมบาล) ว่าตนขอรับโทษแทนมารดา
แต่ก่อนที่มู่เหลียนจะถูกลงโทษด้วยการนำร่างลงไปต้มในกระทะทองแดง พระพุทธเจ้าได้เสด็จลงมาโปรดไว้ได้ทัน โดยกล่าวว่ากรรมใดใครก่อก็ย่อมจะเป็นกรรมของผู้นั้นและพระพุทธเจ้าได้มอบคัมภีร์อิ๋ว หลันเผิน ให้มู่เหลียนท่องเพื่อเรียกเซียนทุกทิศทุกทางมาช่วยผู้มีพระคุณให้หลุดพ้นจากการอดอยากและทุกข์ทรมานต่าง ๆ ได้ โดยที่มู่เหลียนจะต้องสวดคัมภีร์อิ๋ว หลันเผินและถวายอาหารทุกปีในเดือนที่ประตูนรกเปิดจึงจะสามารถช่วยมารดาของเขาให้พ้นโทษได้
นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวจีนจึงได้ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบต่อมากันโดยตลอดด้วยการเซ่นไหว้ โดยจะนำอาหารทั้งคาวหวาน และกระดาษเงินกระดาษทองไปวางไว้ที่หน้าบ้านหรือตามทางแยกที่ไม่ไกลนัก มีนัยว่าเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของบรรดาวิญญาณเร่ร่อนที่กำลังจะผ่านมาใกล้ที่พักของตน
สำหรับการไหว้สารทจีน จะต่างจากการไหว้ในเทศกาลอื่นๆ ตรงที่แบ่งการไหว้ออกเป็น 3 ชุด ดังนี้
ชุดสำหรับไหว้เจ้าที่ ไหว้ในช่วงเช้า มีอาหารคาวหวาน ขนมเทียน ขนมเข่ง ซึ่งต้องแต้มจุดสีแดงไว้ตรงกลางเพื่อความเป็นมงคล
ชุดสำหรับไหว้บรรพบุรุษ ไหว้ในช่วงสาย ประมาณ 09.00-11.00 น. ลักษณะสำรับคล้ายของไหว้เจ้าที่ แต่จะมีกับข้าวที่บรรพบุรุษชอบเพิ่มมาด้วยและต้องมีน้ำแกง หรือขนมใส วางข้างชามข้าวสวย และถ้วยน้ำชาต้องตรงตามจำนวนบรรพบุรุษ และขนมเทียนขนมเข่ง ผลไม้กระดาษเงินกระดาษทอง
ชุดสำหรับไหว้สัมภเวสี ช่วงบ่ายๆ ประมาณหลังบ่ายโมง หรือบ่าย 2 โมงไปแล้ว ก็จะจัดของไหว้สำหรับผีไร้ญาติไว้นอกบ้าน มีของคาวหวาน ผลไม้ และที่พิเศษคือมีข้าวหอมแบบจีนโบราณ คอปึ่ง หรือเผือกนึ่งผ่าซีกเป็นเสี้ยวใส่ถาด เส้นหมี่ห่อใหญ่ เหล้า น้ำชา และกระดาษเงินกระดาษทอง
7 ข้อห้ามวันสารทจีน เนื่องจากเป็นวันที่ประตูนรกเปิดออก วันนี้จึงเป็นวันที่มีข้อห้ามบางอย่างอยู่ด้วย ระวังอย่าไปเผลอทำ ไม่งั้นอาจซวยไปทั้งปีได้ ดังนี้
1.ห้ามแต่งงานเดือนนี้
2.ห้ามซื้อบ้าน หรือย้ายบ้าน
3.ห้ามเริ่มก่อสร้างใดๆ ในเดือนนี้
4.ห้ามเริ่มทำธุรกิจใดๆ ในเดือนนี้
5.ห้ามอยู่นอกบ้านช่วงดึกๆ ในเดือนนี้
6.ห้ามเดินทางบ่อยในเดือนนี้
7.ห้ามว่ายน้ำตอนกลางคืน
ขอบคุณข้อมูล วันสารทจีน / trueid