วอนช่วยเหลือ ยายวัย 87 ปี บ้านถูกไฟไหม้ ไม่มีที่อยู่อาศัย
1 ส.ค. 2564, 14:18
วอนช่วยเหลือวัย 87 ปี บ้านถูกไฟไหม้ ไร้ที่อยู่ ลูกชายเกิดอาการเครียดป่วยเป็นโรคประสาทกำเริบ หลังเห็นบ้านถูกไฟไหม้ ต้องเข้ารักษาโรงพยาบาลสวนปรุง หลาน 2 คน อีกคนขาหัก อีกคนยังเล็กไม่มีคนดูแล ไม่มีรายได้เพราะลูกชายป่วย ตอนนี้อาศัยญาติอยู่ชั่วคราว อยากมีบ้านได้พักอาศัยอีกครั้งเพราะตอนนี้หมดปัญญาสร้างใหม่ ด้วยตนเองเพราะอายุมาก มีโรคประจำตัวหลายโรคด้วย
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า หลังจากเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาได้เกิดไฟไหม้ บ้านเลขที่ 71 หมู่ 11 บ้านปางมะกง ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ของนางดี ทารินทร์ อายุ 87 ปี ทำให้บ้านเสียหายหมดไปทั้งหลัง ไม่สามารถนำทรัพย์สิน ออกมาจากบ้านได้ทัน แม้กระทั่งเงินที่ได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่เก็บไว้ใช้ซื้อข้าวปลาอาหาร ก็ถูกไฟไหม้ไปด้วย บ้านเหลือแต่ตอ หลังเกิดเหตุ นายอรุณ ทารินทร์ อายุ 52 ปี ลูกชายเห็นสภาพบ้านแล้วเกิดความเครียดทำให้อาการโรคประสาทกำเริบ ต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุง ตั้งแต่นั้นมา ซึ่งลูกชายคนดังกล่าวเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ในการเลี้ยงดูยายดี และลูกชาย 2 คน ภรรยาได้แยกทางกัน เลี้ยงลูกลำพัง ซึ่งลูกชายคนโตเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ประสบอุบัติเหตุขาหัก ส่วนอีกคนเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตอนนี้ต้องไปขออาศัยอยู่กับญาติชั่วคราวที่ต่างอำเภอ
ยายดี กล่าวว่า ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว บ้านที่อยู่ข้าวของเครื่องใช้ไฟไหม้หมด เงินที่เก็บไว้ใช้จ่ายในแต่ละเดือนจากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุก็ไหม้ไปกับไฟ ลูกชายก็มาล้มป่วยอีก หลานก็มาบาดเจ็บส่วนหลานอีกคนยังเล็ก ตอนนี้ขอความช่วยเหลือจากผู้ใจบุญได้เข้ามาช่วยเหลือ สร้างบ้านให้ได้กลับมาพักอาศัยเพราะเพียงตนไม่มีปัญญาจะกลับมาสร้างใหม่ได้อีกแล้ว หากลูกชายหายป่วยมาจะได้มีบ้านพักอาศัยก็ไม่รู้ว่าอาการจะดีมากน้อยเท่าไร ขอวิงวอนเพราะอายุมากก็มีโรคประจำตัวหลายอย่าง ยืนนานๆ ไม่ได้ปวดหลัง ตอนนี้ก็ได้ญาติให้ที่พักอาศัย มีพระนำข้าวปลาอาหารมาให้รับประทาน หวังเป็นอย่างยิ่งจะมีผู้ใจบุญเข้ามาช่วยเหลือช่วยสร้างบ้านให้ได้มีที่อยู่อาศัย เพื่อให้ลูกชายกลับมาพักฟื้นหลังจากกลับการรักษาอาการป่วย
ขณะที่ พระครูเกษมจริยานุกูล เจ้าอาวาสวัดปางมะกง เปิดเผยว่าครอบครัวยายดี ฐานะค่อนข้างยากจน อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว กับลูกและหลานชายในครอบครัวมีด้วยกันทั้งหมด 4 คน ที่เชิงเขาทางขึ้นวัดปางมะกง ในวันเกิดเหตุ ชาวบ้านได้แจ้งให้พระสงฆ์และชาวบ้านช่วยกันดับไฟก่อน เนื่องจากรถดับเพลิง อยู่ห่างจากหมู่หลายสิบกิโลเมตร ซึ่งกว่ารถดับเพลิงจะมาไฟก็ไหม้บ้านยายดี จนวอดไปแล้วไม่เหลืออะไรเลย โชคดีวันเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน หลังเกิดเหตุญาติได้นำยายดีไปอยู่อาศัยด้วย ทางวัดได้นำข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการชาวบ้านมาทำบุญที่วัดมามอบให้ยายดี และพยายามหาช่องทางช่วยเหลือยายดี เนื่องจากไม่มีบ้านให้อยู่อาศัย จะหวังพึ่งพาลูกชายที่ทำงานรับจ้างรายวันก็ไม่ได้เนื่องจากยังป่วยด้วยโรคประสาทกำเริบ ไม่รู่ว่าจะได้กลับมาวันไหน จึงอยากขอวิงวอนผู้ที่มีใจกุศล ให้ความช่วยเหลือยายดี และครอบครัวจะถือว่าเป็นการทำบุญให้กับผู้ยากไร้ จะได้กุศลผลบุญแก่ตน