วันที่ 14 ก.ค.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รอง ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วย นายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร นายประกาศิต พรประสิทธิ์ นายอำเภอหลังสวน, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวางแผนการปฏิบัติการตรวจหาเชื้อโควิด-19 เชิงรุก ในล้งทุเรียนที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอหลังสวน หลังพบผู้ต้องสงสัยว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเป็นคู่สามีภรรยาเจ้าของล้งทุเรียน เบื้องต้น ได้ให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเก็บตัวอย่างที่เป็นสารคัดหลั่ง ของผู้ใกล้ชิด และแรงงานภายในล้ง เพื่อควบคุมสถานการณ์ดังกล่าว

โดยนายแพทย์จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีคู่สามีภรรยาเจ้าของล้งทุเรียนในพื้นที่อำเภอหลังสวน ได้เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล พบว่าผลเป็น แรบบิทเทส โพสิทีฟ ทั้ง 2 ราย จึงได้ให้เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลหลังสวน พร้อมกับเก็บสิ่งส่งตรวจเพื่อยืนยันผู้ป่วยโควิด-19 อีกครั้ง และได้ทำการสอบสวนโรค โดยทั้งสองเป็นผู้ประกอบการล้งทุเรียน ซึ่งทางจังหวัดชุมพรได้ให้ความสำคัญ ดังนั้นจึงได้ยกระดับในการควบคุมโรค โดยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าสอบสวนโรคเบื้องต้น พบผู้มีความเสี่ยงสูง 27 ราย และได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทุกราย นอกจากได้ดำเนินการควบคุมโรคในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว สำหรับการตรวจ ทั้ง 27 ราย แบบแรบบิทเทส ผลเป็น โพสิทีฟ 11 ราย และเนกกะทีฟ 16 ราย ซึ่งผลดังกล่าวยังไม่ยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิดจำเป็นต้องตรวจแบบละเอียดอีกครั้ง

นายแพทย์จิรชาติ กล่าวว่า ถึงแม้ในขณะนี้วันนี้จะพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 เป็นจำนวนมาก ในพื้นที่จังหวัดชุมพร แต่เป็นผู้ป่วย ทั้งหมดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้นำตัวมาไว้ที่โรงพยาบาล และกองอาสารักษาดินแดนหรือ อส.ไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วเพื่อทำการตรวจหาเชื้อ และเมื่อผลยืนยันออกมาก็สามารถนำตัวไปรักษาได้ทันที จึงทำให้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อยู่ในการดูแลของสาธารณสุขจังหวัดชุมพร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ป่วยในคลัตเตอร์ ไม่ว่าจะของอำเภอหลังสวน อำเภอปะทิวและที่โรงงานแห่งหนึ่งในตำบลปากน้ำชุมพร ได้รับการควบคุมและป้องกันการแพร่เชื้อได้แล้วในเวลานี้

นายแพทย์จิรชาติ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการ ทางด้านการล็อกดาวน์จังหวัดชุมพรหรือเสนอให้ผู้ว่าการจังหวัดชุมพรประกาศเคอร์ฟิวในจังหวัดชุมพรนั้นในเวลานี้คาดว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการถึงขนาดนั้น ในช่วงอาทิตย์หน้า เป็นต้นไป จังหวัดชุมพรจะชะลอและงดรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 หลังจากได้รับผู้ป่วยติดเชื้อโควิค-19 จากพื้นที่เสี่ยงมาทำการรักษาตัว ซึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชุมพรในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้เกิดปริมาณผู้ป่วยในจังหวัดชุมพรเพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อสถานที่เตียงอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือรวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ ดังนั้นจะงด หรือชะลอการรับตัวผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีภูมิลำเนาในจังหวัดชุมพรมาจากพื้นที่จังหวัดอื่นที่เป็นพื้นที่เสี่ยงตั้งแต่ในช่วงอาทิตย์หน้าเป็นต้นไป

ด้านนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร กล่าวว่า นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพรได้สั่งการให้บูรณาการทุกหน่วยงาน ทุกฝ่าย เป็นชุมพรทีมเข้าแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยได้แยกเป็นกรณีของคน ซึ่งทั้ง 11 ราย ที่ผลเป็นโพสิทีฟ แต่ยังไม่ยืนยันเป็นผู้ป่วยโควิด-19 แต่ต้องส่งตัวเขาโรงพยาบาลเพื่อดำเนินการตรวจยืนยัน หากเป็นผู้ป่วยยืนยันจะได้ทำการรักษาในทันที ส่วนในกลุ่มของ ผลเป็นเนกกะทีฟ 16 ราย ถือเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง จะดำเนินการกักตัวทันที โดยจะส่งตัวไป โลคอลควอรันทีน ที่จังหวัดชุมพรได้กำหนดไว้ เพื่อทำการกักตัว ในส่วนของสถานที่ ได้สั่งปิดล้งผลไม้ดังกล่าว พร้อมกับดำเนินการฉีดฆ่าเชื้อทำความสะอาด รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด และกำหนดเป็นพื้นที่เสี่ยง พร้อมสั่งห้ามไม่ให้พี่น้องประชาชนเข้าเด็ดขาด ซึ่งทั้งหมดนี้จะดำเนินการโดยมีกำหนดระยะเวลาให้ไวที่สุด