ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายชัยพร นุภักดิ์ เกษตรจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายวิสูตร อินทรกำเนิด นายอำเภอบพุนพิน และคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสวนทุเรียนแปลงใหญ่ในพื้นที่อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งมีนาย ศิริ เฮ่าสกุล เป็นประธานกลุ่มทุเรียนแปลงใหญ่

โดยจุดแรกเยี่ยมชมสวนพื้นที่ตำบลเขาหัวควายพื้นที่ปลูกประมาณ 30 ไร่ มีทุเรียนอายุประมาณ 2 ปี ถึง 7 ปี มีการจัดการระบบน้ำระบบแปลงที่ครบวงจรรวมทั้งเป็นจุดศูนย์เรียนรู้ของสมาชิกแปลงใหญ่อีกด้วย

จากนั้นลงพื้นที่สวนทุเรียนหอยใหญ่ พื้นที่ เขาพลู ตำบลท่าสะท้อนอำเภอพุนพิน เนื้อที่กว่า 30 ไร่ ซึ่งมีการปลูกทุเรียนหลายสายพันธุ์โดยเฉพาะพันธุ์เรียน มูซังคิง ที่กำลังออกผลผลิตรอการตัดออกจำหน่าย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ร่วมตัดทุเรียนมูซังคิง ลูกแรกของสวน

นายวิโรจน์ สกุลโต นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ปฏิบัติการสำนักงานเกษตรอำเภอพุนพิน กล่าวว่า การทำทุเรียนแปลงใหญ่ ตามนโยบายรัฐบาลเรื่องเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อประโยชน์ในการสนับสนุนเรื่องอุปกรณ์ ความรู้ ตลาด โดยทุเรียนแปลงใหญ่ เริ่มจากการหากลุ่มเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนมาพูดคุยถึงรูปแบบการรวมตัวเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ เพื่อพัฒนาให้เกิดคุณภาพตามมาตรการของกระทรวงเกษตร 

สำหรับทุเรียนแปลงใหญ่แปลงพุนพิน มีสมาชิกอยู่ 100 คน ในเนื้อที่ 1235 ไร่ ซึ่งให้ผลผลิตแล้ว อายุทุเรียน ตั้งแต่ห้าปีขึ้นไปประมาณ 40% หรือ 400 ตัน ในปีนี้ ส่วนที่เหลือ 60% เป็นทุเรียนที่เพิ่งเริ่มปลูกจนถึงอายุ 4 ปี ซึ่งในปัจจุบันมีเกษตรกรให้ความสนใจล้มสวนยางพาราสวนปาล์มน้ำมันหันมาปลูกทุเรียนกันมากขึ้นเนื่องจาก เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูงสำหรับทุเรียนแปลงใหญ่แปลงพุนพินจะปลูกพันธุ์หมอนทองนอกนั้นก็จะเป็นพันธุ์ทั่วๆ ไปที่ปลูกเสริมลงไปในแปลงเดิม ปัจจุบันมีทุเรียนในแปลงถึง 40 สายพันธุ์และที่กำลังมาแรงคือสายพันธุ์ ทองลินจง ที่มีการปลูกกันมากและสายพันธุ์ มูซังคิง

 

 

สำหรับเกษตรอำเภอพุนพิน ได้เข้ามาดูแลในเรื่องของการรวมตัว การจัดตั้งและการทำกิจกรรมต่างๆ สำหรับทุเรียนแปลงใหญ่มีเป้าหมายคือการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตเพิ่มประสิทธิภาพของผลผลิต การเชื่อมโยงตลาดและการบริหารจัดการกลุ่ม ซึ่งทางสำนักงานการเกษตรได้เข้ามาดูแลในเรื่องของการรวมตัวและองค์ความรู้ต่างๆ ในการทำสวนทุเรียน

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชื่นชมเกษตรกรที่มีการรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ ซึ่งจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมสนับสนุน และในอนาคตเมื่อเปิดประเทศอาจพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ต่อไป