หนุ่มใหญ่วัย 45 ปีใช้ชีวิตอยู่ประเทศสวีเดนนาน 16 ปี เรียนรู้การทำซูชิฟิวชั่นหรือซูชิประยุคจากเพื่อนคนไทยด้วยกัน เข้าประกวดจนได้รับรางวัลรองชนะเลิศ บินกลับเมืองไทยเป็นเชฟร้านอาหารใน จ.กระบี่ไม่นานเกิดแพร่ระบาดเชื้อโควิดธุรกิจปิดตัวพาครอบครัวปักหลักทำมาหากินร่วมกับเพื่อนเปิดร้านซูชิ ในอำเภอสวี จ.ชุมพรเจอพิษโควิด-19 ระลอกใหม่เหลือเงินติดตัวแค่ 2 บาท กัดฟันสู้เก็บหอมรอมริบ  จนเปิดร้านซูชิฟิวชั่นประยุคผสมความเป็นไทยนำพืชผักท้องถิ่นและผลไม้ปรุงแต่งอย่างลงตัว  ผลตอบรับดีรสชาติถูกใจทุกเพศทุกวัย

นายเล็ก  แย้มเขียว อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า  สมัยตอนอาศัยอยู่ที่ประเทศสวีเดน รับจ้างทำงานหลายอาชีพ สุดท้ายได้รู้จักเพื่อนคนไทยที่อาศัยอยู่ต่างแดนด้วยกัน  ได้ถ่ายทอดวิชาความรู้การทำซูชิสไตล์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นให้   โดยตนเองก็นำมาดัดแปลงทำเป็นซูชิฟิวชั่นหรือซูชิประยุคโดยนำส่วนประกอบที่เป็นผักพื้นบ้าน ผลไม้ของคนไทยมาผสมผสาน  แต่ยังมีความเป็นซูชิดั้งเดิมเอาไว้ด้วย ทำให้ถูกปากถูกใจคณะกรรมการจึงได้รับรางวัลรองชนะเลิศประเภท  สีสัน รสชาติ และความคิดสร้างสรรค์ ในกลุ่มร้านอาหารซูชิทางตอนใต้ในสวีเดน  ไม่นานก็ย้ายกับมาเป็นเชฟในร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่

 

ต่อมาได้ประสบปัญหาการพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ธุรกิจร้านค้า ร้านอาหารปิดตัวลง ตนพร้อมภรรยาคือน.ส.นันทนัช  หรือป๊อกกี้   รั้วไธสง  อายุ 41 ปี ย้ายมาอยู่กับเพื่อนที่บ้านบ่อคา ตำบลด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร เปิดร้านซูชิ ที่ “บ่วงแร้ว”ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ขายได้สักพักเจอการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่จำเป็นต้องปิดร้านแบบไม่ทันตั้งตัว  ซึ่งตอนนั้นเหลือเงินแค่ 2 บาท แต่จำเป็นต้องหาสถานที่เปิดร้านใหม่เป็นห้องเช่าปัจจุบัน ตั้งอยู่เลขที่ 40/2 หมู่ 3 ริมถนนสายสวี-บ่อคา ตำบลท่าหิน (ท่าทราย) อำเภอสวี  ด้านหน้าห้องเช่าจัดเป็นซุ้มร้านเล็กๆหลังคามุงจาก จัดวางโต๊ะเก้าอี้แบบลานหน้าร้านนั่งทานซูชิสไตล์ชิวๆเหมาะทุกเพศทุกวัย  
“ เล็ก” เจ้าของร้าน เล่าต่ออีกว่าเมื่อครั้งย้ายมาอยู่ใหม่ๆมีแต่อุปกรณ์ร้านเท่านั้นไม่มีเงินทุนเลย จึงออกรับจ้างรวบรวมเงินมาซื้อวัตถุดิบ  ส่วนห้องเช่าเจ้าของใจบุญให้อยู่อาศัยไปก่อน  ปัจจุบันเปิดร้านให้บริการแล้วกว่า 10 วัน  ที่ผ่านมาลูกค้าให้การตอบรับดีมากจนบางวันทำไม่ทันจึงให้ลูกค้าโทรสั่งล่วงหน้าก่อน

สิ่งที่ทำให้ลูกค้ามีสนใจซูชิที่ร้านอาจจะเป็นเพราะว่าที่ร้านเน้นทำแบบสดใหม่  ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปลาแซลมอนซื้อมาเป็นตัวชำแหละเอง  หรือปลาอินทรีหาซื้อมาจากชาวประมงพื้นบ้าน  ส่วนผักทางร้านจะนำผักพื้นบ้านที่หาได้ตามถิ่นมาประกอบร่วมเช่น ใบมะตูม  ดอกอัญชัน  และดอกจิก  เป็นต้น ทั้งหมดล้วนทานได้เพราะเป็นสมุนไพรมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย  การจัดแต่งท็อปปิ้งจานซูชิ เหมือนได้ทานซูชิในร้านอาหารดังๆ