ครม.อนุมัติร่างกฎกระทรวง รถยนต์นั่งส่วนบุคคลให้บริการผ่านแอปถูกกฎหมาย
25 พ.ค. 2564, 16:29
วันที่ 25 พ.ค. 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้ภาครัฐสามารถควบคุม ติดตามตรวจสอบการให้บริการและสร้างมาตรฐานความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวสามารถประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญดังนี้
1.กำหนดให้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่จะนำมาจดทะเบียนเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์รับจ้างโดยการรับจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ โดยให้จดทะเบียนได้คนละ 1 คัน
2.กำหนดลักษณะและกำลังในการขับเคลื่อนของรถยนต์รับจ้าง เช่น เป็นรถเก๋งสองตอน รถเก๋งสองตอนแวน รถเก๋งสามตอน เป็นต้น
3.กำหนดให้ต้องมีและใช้อุปกรณ์สื่อสารตามที่กรมการขนส่งทางบกให้การรับรอง และให้รถยนต์รับจ้างมีอายุการใช้งานได้ไม่เกิน 9 ปี นับแต่วันที่จดทะเบียนครั้งแรก
4.กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการอื่นสำหรับรถยนต์รับจ้าง ดังนี้
-รถยนต์รับจ้างขนาดเล็กและขนาดกลาง คิดค่าบริการตามระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ไม่เกิน 50 บาท กิโลเมตรต่อไป กิโลเมตรละไม่เกิน 3 บาท รถติดหรือรถไม่เคลื่อนที่ นาทีละไม่เกิน 3 บาท (ไม่เกินอัตราค่าบริการของแท็กซี่ในปัจจุบัน) หากเรียกผ่านศูนย์บริการหรือะบบทางอิเล็กทรอนิกส์ คิดค่าบริการไม่เกิน 50 บาท
-รถยนต์รับจ้างขนาดใหญ่ คิดค่าบริการตามระยะทาง 2 กิโลเมตรแรก ไม่เกิน 200 บาท กิโลเมตรต่อไป กิโลเมตรละไม่เกิน 50 บาท รถติดหรือรถไม่เคลื่อนที่ นาทีละไม่เกิน 10 บาท หากเรียกผ่านศูนย์บริการหรือะบบทางอิเล็กทรอนิกส์ คิดค่าบริการไม่เกิน 100 บาท (ไม่เกินอัตราค่าบริการของแท็กซี่ VIP ในปัจจุบัน)
5.กำหนดให้แผ่นป้ายทะเบียนรถของรถยนต์รับจ้าง ให้ใช้แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คนเดิม โดยให้นายทะเบียนเปลี่ยนประเภทการจดทะเบียนเป็นรถยนต์รับจ้างในใบคู่มือจดทะเบียนรถ
6.กำหนดให้รถยนต์รับจ้าง ต้องมีการตรวจสภาพตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ต้องรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งภายนอกและภายในตัวรถเป็นอย่างดี รวมทั้งกำหนดให้ผู้ขับรถยนต์รับจ้างต้องแต่งกายสุภาพเรียบร้อยและรัดกุม ทั้งนี้ รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงจะมีผลบังคับใช้