วันที่ 16 เม.ย. 64 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 64 – ปัจจุบัน เกิดพายุ ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงลูกเห็บตก และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 51 จังหวัด รวม 247 อำเภอ 617 ตำบล 1,565 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 8,392 หลัง วัด 4 แห่ง รวมถึง กทม. 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 3 ราย ผู้บาดเจ็บ 8 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้วทุกจังหวัดซึ่ง ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว  
       
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่างเคลื่อนเข้าสู่บริเวณทะเลอันดามันประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางพื้นที่ในห้วงวันที่ 31 มีนาคม 2564 – ปัจจุบัน (16 เมษายน 2564 เวลา 06.00 น.) ส่งผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตกและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 51 จังหวัด รวม 247 อำเภอ 617 ตำบล 1,565 หมู่บ้าน 2 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 8,392 หลัง วัด 4 แห่ง รวมถึงกรุงเทพมหานคร 1 เขต 1 แขวง ผู้เสียชีวิต 3 ราย (น่าน 1 ราย มหาสารคาม 1 ราย และเลย 1 ราย) ผู้บาดเจ็บ 8 ราย (น่าน 1 ราย สุรินทร์ 4 ราย พิจิตร 1 ราย เชียงใหม่ 1 ราย และเลย 1 ราย) แยกเป็น 

ภาคเหนือ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน ลำปาง ลำพูน ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์รวม 79 อำเภอ 236 ตำบล 795 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5,276 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย ผู้บาดเจ็บ 3 ราย 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 จังหวัด ได้แก่ บึงกาฬ นครพนม เลย อุดรธานี สกลนคร กาฬสินธุ์ หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร สุรินทร์ มุกดาหาร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา รวม 103 อำเภอ 226 ตำบล 433 หมู่บ้าน 1 เทศบาลเมือง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,894 หลัง ผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้บาดเจ็บ 5 ราย 

ภาคกลาง 12 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และราชบุรี รวม 50 อำเภอ 124 ตำบล 262 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 999 หลัง วัด 2 แห่ง 

ภาคตะวันออก 6 จังหวัด ได้แก่ ระยอง จันทบุรี สระแก้ว ชลบุรี ปราจีนบุรี และฉะเชิงเทรา รวม 14 อำเภอ 31 ตำบล 76 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 193 หลัง 

ภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต รวม 1 อำเภอ 1 เขตเทศบาล บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 30 หลัง