เปิดตำนาน“เพลิงพระนาง”สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริง อิงประวัติศาสตร์พม่า
31 มี.ค. 2564, 13:50
เป็นละครในดวงใจใครหลายๆคน สำหรับ “เพลิงพระนาง” ที่กำลังรีรันทางช่อง7 กับเรื่องราวของ “เจ้านางอนัญทิพย์”เจ้านางผู้กุมอำนาจในราชวังใหญ่โต มีอำนาจเหนือบุรุษ โดยเชื่อว่าดัดแปลงมาจากเรื่องราวของ “พระนางอเลนันดอ” พระมเหสีองค์หนึ่งของพระเจ้ามินดง ในช่วงสมัย ร.5
สำหรับ พระนางอเลนันดอ มีพระนามจริงว่า พระนางสิ่นพยูมาชิน (Hsinbyumashin ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างขาว เป็นพระราชธิดาในพระเจ้าจักกายแมงแห่งพม่า ที่เกิดกับแม่ค้าในตลาดที่ถูกนำมาเป็นสนมตั้งแต่สมัยยังเป็นเจ้าชาย พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ พระนางศุภยาคยี, พระนางศุภยาลัต และพระนางศุภยากเล
โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ พระนางศุภยาลัต มีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ซึ่ง พระนางศุภยาลัต เป็น พระราชินีองค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์อลองพญา ด้วยความทะเยอทะยานของพระนางศุภยาลัต พระองค์จึงได้เป็นพระราชินีในพระเจ้าธีบอกษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งพม่า สมองเพียบพร้อมไปด้วยกลอุบาย สองแม่ลูกคู่นี้จึงถูกกล่าวหาว่าเป็นคู่แม่ลูก คู่ร้ายของประวัติศาตร์พม่า ทั้งยังผู้อยู่เบื้องหลังของการสังหารโหดราชวงศ์พม่าหลายคน
ด้วยเหตุที่พระมารดาของพระนางอเลนันดอเป็นแม่ค้าตลาดที่พระเจ้าจักกายแมงชุบเลี้ยง จึงมีนิสัยผิดกับกุลสตรีในวัง ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับพระเจ้าธีบอ แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา
จนพม่าแตกพ่ายตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พระเจ้าธีบอ พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมืองบอมเบย์ ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า
พระนางอเลนันดอ ได้กลับมาสู่พม่าที่เมืองย่างกุ้ง ทรงเครียดแค้นขุนนางพม่าที่ไปเข้ากับอังกฤษ มีฝรั่งเขียนเกี่ยวกับพระนางไว้ว่า เมื่อพระนางแก่ตัวเข้าและรู้สำนึกในชีวิตแล้ว ทรงสงบเสงี่ยม สุภาพ น่าสงสาร ทรงเลี้ยงสุนัขเป็นเพื่อน และเสียพระทันต์ทั้งหมด พระนางอยู่ในตำหนักที่อังกฤษจัดถวายให้ในเมืองย่างกุ้ง 10 ปี จึงสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 ขณะพระชนมายุ 65 พรรษา การจัดการพระศพก็เป็นไปตามยถากรรม ไม่ได้มีพิธีรีตองมากมายไม่ต่างจากคนทั่วไป