"ครูปรีชา" ควงทนายคู่ใจ ยื่นฎีกาคดีหลัก หวย 30 ล้านอลเวงครั้งสุดท้าย คาดอีก 1-2 เดือนศาลนัดฟังคำสั่ง
26 ก.พ. 2564, 08:24
จากกรณีสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 60 หมายเลข 533726 ซึ่งทาง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ หมวดจรูญ อดีตข้าราชการตำรวจ สภ.บ่อพลอย อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เป็นผู้นำสลากฯจำนวน 1 ชุด 5 ใบเป็นเงินจำนวน 30 ล้านบาทไปขึ้นเงินรางวัลที่กองสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยนำเงินเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อหักภาษีแล้ว เหลือเงินเข้าบัญชี จำนวน 29,850,000 ล้านบาท โดยหมวดจรูญได้เบิกเงินออกมาจากธนาคารเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย จำนวน 5,500,000 บาท ยังคงเหลือเงินอยู่ในบัญชีธนาคารอีก จำนวน 24,350,000 บาท แต่ในที่สุดหมวดจรูญ ก็มาถูกนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี ยื่นฟ้องแพ่ง ซึ่งศาลประทับรับฟ้องในคดีหมายเลขดำที่ พ.1230/60 จากนั้นส่งคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้มีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีของหมวดจรูญที่เหลืออยู่เอาไว้ทั้งหมด
พร้อมกันนี้นายปรีชา ยังยื่นฟ้องคดีอาญาต่อหมวดจรูญ อีก 1 คดี ศาลได้ประทับรับฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำ ที่ อ.1863/61 ข้อหายักยอกทรัพย์ รับของโจร ดังนั้นคดีอาญาจึงถือว่าเป็นคดีหลัก ศาลจึงจำหน่ายคดีแพ่งออกไปเพื่อรอฟังคำพิพากษาในคดีอาญา ซึ่งศาลได้นัดไต่สวนมูลฟ้อง ทั้งฝ่ายโจทก์และฝ่ายจำเลยจนแล้วเสร็จ
ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย.2562 ศาลได้มีคำพิพากษายกฟ้อง หมวดจรูญ ในคดีอาญา โดยพิพากษาว่า “ไม่ใช่ทรัพย์สินของโจทก์ โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย พิพากษายกฟ้อง
จากนั้นครูปรีชาได้ยื่นอุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 7 และวันนี้ 20 ตุลาคม 2563 ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง เนื่องจากศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหายจึงไม่มีอำนาจฟ้อง ดังนั้น ศาลอุทธรณ์จึงเห็นด้วยกับศาลชั้นต้น
หลังจากนั้นครูปรีชา ได้ขอต่อสู้คดีในชั้นศาลฎีกา ด้วยการเขียนคำร้องเพื่อยื่นฎีกา ซึ่งการเขียนคำร้องนั้นล่าช้า โดยทนายความคือนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัวของครูปรีชา ได้ขอขยายเวลาออกไปรวม 3 ครั้ง และศาลได้อนุญาตให้ขยายเวลาออกไปถึงวันที่ 25 ก.พ.64 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย
ล่าสุดวันนี้ 25 ก.พ.64 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา พร้อมด้วยนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความส่วนตัว นายวชิระ ทานท่า ทนายความพร้อมทีมทนายความ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อยื่นฎีกาสู้ในคดีหลักเป็นครั้งสุดท้าย โดยครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็แล้วเสร็จ
ทั้งนี้นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความ ออกมาเปิดเผยในภายหลังว่า วันนี้มายื่นฎีกาเพื่อต่อสู่ในคดีหลักที่สู้คดีกันมาตั้งแต่ศาลชั้นต้นจนถึงศาลอุทธรณ์ ซึ่งตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลฎิกา คือเรามีความประสงค์ที่จะโต้แย้งในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์
ดังนั้นเพื่อให้ศาลฎีกาได้มีการพิจารณาในประเด็นที่เรายื่นฎีกาไปอีกครั้งหนึ่ง ในวันนี้นอกจากประเด็นในการยื่นฎีกาแล้ว เรายังได้มีคำร้องร้องขอให้ทางศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ท่านได้พิจารณาคดีอนุญาตให้ฎีกา สำหรับวันนัดฟังคำสั่งนี้ศาลจะแจ้งให้เราทราบเป็นหนังสือออกมา แต่คิดว่าคงไม่นานน่าจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 เดือน
ส่วนการเดินทางไปที่กองปราบเมื่อครั้งที่แล้ว เป็นการเดินทางไปแจ้งความ ซึ่งทางกองปราบมีหนังสือแจ้งมาให้เราไปกล่าวโทษร้องทุกข์กล่าวโทษว่าการที่เราไปร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่ามีการนำเอกสารออกไปจากสำนวนโดยมิชอบ หลังจากที่คณะกรรมการได้มีการสืบสวนแล้ว จึงมีหนังสือแจ้งมาที่ครูปรีชา ให้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับสำนวนที่หลุดออกมา ซึ่งตรงนี้เป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนของกองปราบว่าจะสอบสวนถึงใครบ้าง ซึ่งทางเรามีความประสงค์ที่จะให้ดำเนินคดีกับทุกคน ส่วนจะมีใครบ้างนั้นยังไม่สามารถแจ้งได้เพราะอยู่ในสำนวน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ไม่รับรองให้ฎีกา จะมีทางออกอื่นอีกหรือไม่” นายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ตอบว่า เรื่องนี้ตามข้อกฎหมายได้กำหนดให้ตัวโจทก์ต้องยื่นคำร้องรอคำสั่งจากศาลอีกภายใน 15 วัน เพื่อจะได้ให้ศาลฎีกาพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการยื่นฎีกาครั้งนี้เป็นการยื่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ขอขยายมาคือวันที่ 25 ก.พ.ทางเราจึงถือว่าวันนี้เป็นวันฤกษ์ดี
ด้านนายปรีชา ใครครวญ หรือครูปรีชา กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่คอยติดตามเรื่องราวของคดีหวย 30 ล้านมาโดยตลอดกว่า 3 ปีแล้ว และต้องขอขอบคุณประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ และขอเป็นกำลังใจให้กับประชาชนทุกคนได้มีกำลังใจกำลังกายและสุขที่ดีในยุคการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอให้ทุกคนมีภูมิคุ้มกันและต้องระวังตัวให้ดี
ส่วนเรื่องคดีหวย 30 ล้านก็เป็นไปตามที่ทางทนายความได้กล่าวเอาไว้แล้ว ซึ่งเราก็ได้มาใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในเรื่องของคดีความ ซึ่งเป็นไปตามที่ทนายความได้พูดเอาไว้แล้วว่าในคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์นั้น ตัวเราเองก็ยังไม่เห็นพ้องด้วย ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นพยานของเราทุกปาก รวมถึงเส้นทางที่มาของลอตเตอรี่ก็ชัดเจน ดังนั้นเราจึงมาขอความเมตตาจากศาลฎีกาอีกครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกันต้องขอฝากไปถึงพนักงานสอบสวนกองปราบด้วยว่าที่ตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษในเรื่องของเอกสารโดยเฉพาะเรื่องสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเอกสารของผมเองว่ามาอยู่ในมือของลุงจรูญแล้วนำมานำสืบไต่สวนมูลฟ้องในชั้นศาล ซึ่งผมได้นำหลักฐานตรงนี้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาไว้แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้นเป็นวันตรุษจีพอดี สื่อมวลชนก็เยอะ ดังนั้นจึงอยากจะฝากไปถึงสื่อมวลชนทุกท่านที่มาในวันนั้นได้ช่วยติดตามคดีให้ด้วย เพราะเรื่องนี้มันจะไปเกี่ยวกันกับเรื่องของคดีหวย 30 ล้านบาท
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่ว่า หากศาลฎีกา รับเรื่องฎีกาและพิจารณากลับคำตัดสินให้กับทางครูปรีชาเป็นฝ่ายชนะคดี แต่ฝ่ายของคู่กรณีคือลุงจรูญ อาจจะไม่มีเงินมาชดใช้ให้กับครูปรีชาได้ทั้งหมดนั้น ครูปรีชาจะทำเช่นไร ครูปรีชาได้ตอบคำถามถึงเรื่องนี้ว่า จุดประสงค์แท้จริงที่ตนตัดสินใจยื่นฎีกาก็เพื่อต้องการที่จะพิสูจน์ความจริงให้กับสังคมได้รับรู้ ว่าตนเป็นเจ้าของสลากชุดที่ถูกรางวัลโดยแท้จริง และต้องการทวงคืนศักดิ์ศรีความเป็นครูของตนกลับคืนมา ซึ่งจนถึงตอนนี้คนในสังคมบางส่วนก็ยังคงไม่เชื่อว่าตนเองเป็นเจ้าของสลากชุดที่ถูกรางวัล และยังคงมองว่าตนเป็นคนสร้างเรื่องโกหกขึ้นมา ศาลฎีกา พิจารณา กลับคำตัดสิน อย่างน้อยตนก็ยังได้ทวงคืนศักดิ์ศรีให้กับตัวเองได้ และจะได้ใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ ส่วนเรื่องของเงินรางวัลจากการถูกรางวัล ก็คงจะมีช่องทางตามกฎหมายที่จะสามารถฟ้องร้องเรียกคืนกลับมาได้