ผู้ตรวจราชการฯ เขตสุขภาพที่ 5 เปิดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC)
12 ก.พ. 2564, 13:07
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมกัลปพฤกษ์ (video conference) สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 เป็นประธานเปิดการประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉิน (EOC) ครั้งที่ 16/2564 เขตสุขภาพที่ 5 พร้อมด้วยนพ.นิพนธ์ พัฒนกิจเรือง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี และคณะเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมประชุมหารือในครั้งนี้ ผ่านระบบ Cisco Webex Webinar.
ส่วนสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี กรมควบคุมโรค เตือนช่วงนี้ประเทศไทยมีสภาพอากาศแปรปรวน ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย แนะประชาชนดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน ระวังป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้ทุกคนยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์
แพทย์หญิงรพีพรรณ โพธิ์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรีกล่าวว่า จากพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่าในช่วงสัปดาห์นี้มีฝนตกในหลายพื้นที่โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งบางพื้นที่อาจมีสภาพอากาศแปรปรวน อากาศร้อนสลับฝนตก และในบางพื้นที่ก็เริ่มมีอากาศหนาวเย็นลง ร่างกายอาจปรับตัวไม่ทัน ทำให้ประชาชนอาจเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพและป้องกันตนเองและคนในครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียนที่อยู่ในสถานศึกษาซึ่งมีคนจำนวนมากอยู่รวมกัน
สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-1 กุมภาพันธ์ 2564 พบผู้ป่วย 1,459 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยพบมากที่สุดในเด็กแรกเกิด-4 ปี รองลงมาคืออายุ 15-24 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน โดยในเดือนแรกของปี 2564 นี้ มีผู้ป่วยลดลงจำนวนมาก เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 และ 2563 ที่พบผู้ป่วยในเดือนมกราคมจำนวนหลายหมื่นราย แต่เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีการติดต่อในลักษณะเดียวกัน ทำให้ประชาชนดูแลตนเองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 โดยสวมหน้ากากผ้า 100% ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่าง แยกของใช้ และหลีกเลี่ยงสถานที่แออัด ซึ่งมาตรการป้องกันโรคดังกล่าว ยังส่งผลให้พบผู้ป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเห็นได้จากปี 2563 ที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนใช้มาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้น ทำให้จำนวนผู้ป่วยลดลงจากหลักหมื่นรายในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม เหลือเพียงหลักพันรายตั้งแต่เดือนเมษายน-ธันวาคม
แพทย์หญิงรพีพรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไข้หวัดใหญ่สามารถติดต่อจากการไอ จามรดกัน หรือจากการสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโรค เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู เป็นต้น สำหรับอาการของโรคจะคล้ายไข้หวัด แต่จะมีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย แต่สามารถหายเองได้ใน 5-7 วัน ดังนั้นหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 48 ชั่วโมงหรือผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ควรรีบพบแพทย์ทันที อย่างไรก็ตามในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี โดยพบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่ ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม โดยใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น ลูกบิด ราวบนรถโดยสาร เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือในสถานที่ที่มีคนอยู่หนาแน่น และ หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยมีอาการไม่มาก ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 จังหวัดราชบุรี เบอร์ติดต่อ 032310804 หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422 แพทย์หญิงรพีพรรณ กล่าวปิดท้าย./