วันนี้ ( 20 มกราคม 2564 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่บ้านชั้นเดียว เลขที่ 18ม.3 บ้านเหลา ตำบลจันอัด อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากพบหลักฐานมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อมีโอ สีม่วง ทะเบียน คทจ 780 นม ที่นายสอบ ดอนแก้วกลาง อายุ 63 ปี นำมาซุกซ่อนอยู่ภายในบ้าน และพบกางเกงสีแดงลักษณะคล้ายกับใช้ในการก่อเหตุซ่อนไว้อยู่ในกล่องสีม่วงใต้เตียงของห้องผู้ก่อเหตุ จึงเก็บไว้ตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐาน โดยพบญาติคนหนึ่งอยู่ภายในบ้าน พร้อมกับให้ข้อมูลสั้นๆ ว่า ผู้ก่อเหตุได้ขับขี่มอเตอร์ไซค์เข้ามาในช่วงเวลาเกือบ 21:00 น. ซึ่งมอเตอร์ไซค์คันดังกล่าวเป็นของหลานสาว หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนเอารถเก๋งสีบรอนซ์ ออกจากบ้านด้วยความเร่งรีบ ทิ้งไว้เพียงร่องรอยน้ำมันเครื่องที่ตกอยู่บนพื้น สร้างความแตกตื่นให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก

 

นางรัชฎาภรณ์ จอมเกาะ อายุ 40 ปี หลานสาว เปิดเผยว่า พบเห็นนายสอบ ขับมอเตอร์ไซค์ของตนมาจอดที่บ้านในช่วงเวลา 21:00 น. หลังจากนั้นก็บอกว่าจะไปทำธุระต่อโดยที่ตนเองไม่ได้สังเกต ก่อนจะขับรถเก๋งสภาพเก่าสีบรอนซ์ ออกจากบ้านไปยังเร่งรีบ โดยปกตินายสอบจะเป็นคนที่เงียบไม่ค่อยคุยกับชาวบ้าน รู้แต่เพียงว่าตระเวนขายข้าวต้มไปตามต่างจังหวัด นานๆ ทีจะแวะเข้ามาที่บ้าน แต่ช่วงนี้เจอพิษโควิด-19 เล่นงาน จึงทำให้ตกงานและได้กลับมาที่บ้าน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก หลังจากที่ทราบข่าวว่ามีการชิงทองน้ำหนัก 73 บาท ไปนั้นมูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ตนก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอยากให้นายสอบออกมามอบตัวเพื่อที่จะผ่อนหนักเป็นเบา

นางสาวพรทิพย์ ช่อรักษ์ อายุ 37 ปี ผู้จัดการร้านทอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.59 น. ได้มีชายถือปืนพกสั้นบุกเดี่ยวเข้ามา โดยคนร้ายสวมเสื้อแขนยาว มีฮูทคลุมศีรษะ ใส่แมสก์ปกคลุมมิดชิด กางเกงขายาวสีแดง โดยใช้ปืนส่ายไปส่ายมา บอกให้พนักงานภายในร้านห้ามตะโกนเสียงดัง พร้อมให้หยิบทองมาใส่ถุงผ้า โดยในระหว่างนั้นคนร้ายก็กระโดดขึ้นมาบนตู้กระจก ก่อนที่จะยิบทองที่อยู่ในถาดออกมาจำนวน 73 เส้น มูลค่าเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งตนรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเกิดครั้งแรกในชีวิต โดยในที่เกิดเหตุมีพนักงานที่อยู่ในร้านจำนวน 3 คน ต่างคนต่างวิ่งหนีออกจากร้านทอง เพราะว่าคนร้ายจะใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงใส่พนักงานเหมือนกับเคสที่ ผอ.กอล์ฟ เข้าไปชิงทองที่จังหวัดลพบุรี จึงทำให้ต้องวิ่งหนีตายกันจ้าละหวั่น ซึ่งตนเองสามารถจำรูปพรรณสัณฐานคนร้ายได้เป็นอย่างดี คนร้ายมีแววตาที่ดุดัน บริเวณใต้ตามีรอยช้ำและมีถุงตาค่อนข้างที่จะหนา หากเห็นอีกครั้งตนจำหน้าได้อย่างแน่นอน และอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว